เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ดร.อรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ได้ดำเนินการตรวจติดตาม เพื่อสะสาง และจัดระเบียบโรงเรียนนอกระบบทั่วประเทศ พบว่า ข้อมูลล่าสุด ณ เดือนตุลาคม 2563 มีโรงเรียนนอกระบบที่มีสถานะเปิดดำเนินการปกติ 7,602 แห่ง อยู่ระหว่างรอเลิกกิจการ 2,421 แห่ง และเลิกกิจการแล้ว 55 แห่ง ซึ่ง สช.จะเร่งดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตโรงเรียนที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อเคลียร์ให้เหลือโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนนอกระบบและยังดำเนินกิจการอยู่จริง ๆ

เลขาธิการ กช. กล่าวต่อไปว่า โรงเรียนนอกระบบที่เข้าข่ายถูกเพิกถอนใบอนุญาตมีการจดทะเบียนขออนุญาตถูกต้อง ไม่ใช่โรงเรียนเถื่อน แต่ไม่ได้เปิดสอนแล้ว โดยไปดำเนินกิจการอื่นที่ไม่ใช่โรงเรียนนอกระบบ เช่น โรงเรียนที่ขออนุญาตสอนพิมพ์ดีด สอนคอมพิวเตอร์โปรแกรมเก่า ๆ ที่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้วโปรแกรมเหล่านั้นแล้ว เด็ก ๆ ไม่ต้องเรียนก็เล่นคอมพิวเตอร์เป็น  โรงเรียนเหล่านั้นก็ไม่มีคนเรียน หรือ โรงเรียนกวดวิชาที่เช่าพื้นที่ห้าง พอเลิกสอนก็ไม่ได้มาแจ้งยกเลิก ทำให้ยังมีชื่อโรงเรียนอยู่ที่ สช.ซึ่งก็ต้องมาเคลียร์กัน

“ปัญหาโรงเรียนนอกระบบเป็นปัญหาที่พอกมาแต่เดิม เมื่อก่อนไม่มีใครสนใจ สช.ก็ถูกทวงถามว่า เมื่อไหร่จะจัดการโรงเรียนเถื่อน ซึ่งไม่ผ่านมาจัดการไม่ได้ เพราะยังแยกไม่ออกว่าโรงเรียนไหนเถื่อนโรงเรียนไหนจริง และยังทำให้เกิดการเลี่ยงภาษี เนื่องจากการเป็นโรงเรียนนอกระบบจะได้รับการยกเว้นภาษี ก็ไม่ยอมมาแจ้งเลิก โรงเรียนพวกนี้ไม่ถือเป็นโรงเรียนเถื่อนแต่ไม่ประกอบกิจการแล้ว และตามระเบียบถ้าไม่ประกอบกิจการเกิน 90 วันจะต้องสั่งเพิกถอน ซึ่งควรเพิกถอนมานานแล้ว”ดร.อรรถพลกล่าวและว่า โรงเรียนเถื่อนที่ สช.จะไปดำเนินการ คือ กลุ่มที่ไม่ได้ขออนุญาตจาก สช.แล้วเปิดสอนดื้อ ๆ เลย  ถ้าคนเรียนรวมกันเกิน 7 คนแล้วไม่มาขออนุญาตยังไงก็เป็นโรงเรียนเถื่อน เช่น โรงเรียนสอนขับรถต้องขออนุญาตทั้งขนส่งและขออนุญาตจัดตั้งที่สช.ด้วย แต่บางแห่งไปขอแต่ที่ขนส่งซึ่งผิดกฎหมายโรงเรียนเอกชน ดังนั้นขอให้โรงเรียนกวดวิชา หรือ อะไรก็ตามที่มีการเปิดสอนมาขออนุญาต มาเข้าระบบให้ถูกต้อง เพราะถ้ามีการร้องมา สช.ก็จะแจ้งตำรวจเข้าไปมาจัดการ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments