นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ ผู้แทนและผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กว่า 200 แห่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการอธิบายถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมา รวมถึงชี้แจงข้อเท็จจริงในหลาย ๆ เรื่อง เช่น การเลื่อนเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2563 เป็นวันที่ 1กรกฎาคม 2563 ได้ย้ำกับโรงเรียนว่า ยังสามารถจัดการเรียนการสอนได้ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งโรงเรียนนานาชาติส่วนใหญ่ทำอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา แต่ก็มีประเด็นว่า หลายโรงเรียนต้องการเปิดทำการเรียนการสอนในสถานศึกษา ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม ดังนั้นจึงได้ย้ำว่า ไม่สามารถเปิดได้ แม้จะมีการยกเลิกพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ก็ต้องเปิดวันที่ 1 กรกฎาคม เพื่อความปลอดภัยของเด็ก เพราะโรงเรียนถือเป็นสถานที่เสี่ยงที่สุด และเด็กไม่มีความเข้าใจเหมือนผู้ใหญ่ หากมีปัญหาจะทำการสอบสวนโรคได้ยาก อีกเด็กเป็นกลุ่มที่ไม่แสดงออกการของโรค อย่างไรก็ตามต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง ย้ำว่า วันที่ 1 กรกฎาคมนี้จะมีการเรียนการสอน เต็มรูปแบบ ส่วนจะจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน หรือสอนออนไลน์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะโรงเรียนจะเป็นสถานที่สุดท้ายที่รัฐบาลจะตัดสินใจปลดล็อก
“ตอนนี้ทุกโรงเรียนต้องเตรียมพร้อมเรื่องการสอนออนไลน์ ซึ่งจากการหารือ ข้อมูลล่าสุด พบว่า มีโรงเรียนนานาชาติ 17 โรงเรียน ที่มีข้อจำกัดในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ผมได้มอบให้ สช. และโรงเรียนชาติที่มีความพร้อมเข้าช่วยเหลือ ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีโรงเรียนนานาชาติ ที่จะขอปิดกิจการ ”นายณัฏฐพล กล่าว
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการกช. กล่าวว่า ขณะนี้ สช. อยู่ระหว่างรวมข้อมูลครูโรงเรียนเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 กลุ่มที่อยู่ในระบบประกันสังคม กรณีนายจ้างให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไม่จ่ายเงินเดือน แต่โรงเรียนยังไม่ปิดกิจการ ทำให้ไม่มีคุณสมบัติได้รับความช่วยเหลือจากประกันสังคม โดยวันที่ 28 เมษายนนี้ จะไปหารือกับสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้ครูกลุ่มนี้ได้รับสิทธิในการดูแล้ว
