เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 นายณรงค์ คงสมปราชญ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบูรณะ เปิดเผยว่า ตามที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายให้เตรียมการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้กับนักเรียนในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รองรับการเปิดภาคเรียนที่1/2563 ในกรณีที่โรงเรียนไม่สามารถสอนได้ตามปกติ ว่า ในส่วนของโรงเรียนโยธินบูรณะ ได้นำวิธีการสอนผ่านระบบออนไลน์มาใช้กับนักเรียนห้องเรียนพิเศษโครงการโปรแกรมนานาชาติ(International Programme : IP) หลักสูตรเคมบริดจ์ ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 70 คน เนื่องจากโครงการห้องเรียนพิเศษIP ยังไม่ปิดภาคเรียน แต่โรงเรียนได้ปิดสถานศึกษาตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระหว่างปิดสถานศึกษาทางโครงการIP จึงได้จัดการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ให้กับนักเรียนมาตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเท่าที่ประเมินระบบ ยังไม่มีปัญหา ครูสามารถสอนได้ และตรวจสอบได้ด้วยว่านักเรียนเข้าเรียนหรือไม่ โดยได้สื่อสารกับผู้ปกครองให้กำชับเด็กในการเข้าเรียนออนไลน์ตามเวลาด้วย
ผอ.โรงเรียนโยธินบูรณะ กล่าวต่อไปว่า หลังจากทางโรงเรียนได้นำร่องการสอนออนไลน์กับนักเรียนโครงการIP แล้ว ขณะนี้กำลังเตรียมการสำหรับเด็กห้องเรียนพิเศษอื่น ได้แก่ โครงการห้องเรียนภาษาอังกฤษ(English Program : EP)และโครงการห้องเรียนพิเศษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ (Science Mathematics Program : SMP) ด้วย โดยจะจัดการเรียนปรับพื้นฐานให้แก่เด็กด้วยระบบออนไลน์ โดยนักเรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นก็จะเตรียมการสอนออนไลน์สำหรับชั้นเรียนปกติต่อไป
“วันนี้โรงเรียนโยธินบูรณะได้เตรียมความพร้อมครูในการสร้างบทเรียนออนไลน์และตารางเรียนออนไลน์ไว้แล้ว อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนได้คำนึงถึงข้อจำกัดในการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ด้วย เช่น กรณีนักเรียนไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ้ค ก็ไม่เป็นไร ขอให้มีมือถือ ก็สามารถเรียนได้ แต่ก็เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้เตรียมมาตรการที่จะลดค่าใช้จ่าย จากที่เคยเก็บค่าเทคโนโลยีภาคเรียนละ1,000 บาท ก็จะลดส่วนนี้ไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ปกครอง”นายณรงค์ กล่าว
นายณัฐภพ บุญสุด นักเรียนโครงการ IP ชั้น year 13 หรือ ม.6 กล่าวว่า จากการได้เรียนผ่านระบบออนไลน์ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือ เราสามารถเรียนที่บ้านได้ โดยไม่มีเสียงรบกวน แต่ก็มีข้อเสีย คือ ไม่สามารถถามครูได้ในทันทีเหมือนกับการเรียนในห้องเรียน อีกอย่างถ้าสัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่ดี ก็ทำให้เป็นปัญหา และเรียนไม่รู้เรื่อง ถ้าถามว่าชอบการเรียนแบบไหนมากกว่า ผมชอบเรียนในห้องเรียน เพราะสามารถโต้ตอบกับครูและเพื่อน ๆ ได้ และสามารถเข้าใจในสิ่งที่เรียนได้มากกว่า การเรียนออนไลน์ ถ้าเป็นการเรียนเสริมจะดีกว่าให้เรียนเป็นหลัก แต่เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสฯยังเป็นอยู่แบบนี้ ก็มีความจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งทำให้เราต้องขยันมากขึ้น เพราะต้องเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่
