เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค. เปิดเผยความคืบหน้าการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ว่า ขณะนี้การจัดพิมพ์หนังสือเรียนในระดับประถม ซึ่งเป็นโควต้าเดิมที่องค์การค้าฯ ได้รับนั้นจัดพิมพ์เรียบร้อยแล้ว 100% รอบรรจุหีบห่อและจัดส่งไปยังสถานศึกษา ส่วนโควต้าใหม่ที่เพิ่งได้รับลิขสิทธิ์ในระดับมัธยมศึกษาปี3 และม.6 ม.2 และม.4 อยู่ระหว่างดำเนินการ เชื่อว่าจะจัดส่งได้ทันเวลาไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนการจัดพิมพ์หนังสือเรียนของสสวท. ปีการศึกษา 2564 นั้น ยอมรับว่า ยังมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ซึ่งต้องหารือกับทางสสวท. เพื่อขอความเห็นร่วมกัน โดยทางองค์การค้าฯ จะแสดงให้เห็นความจำเป็น และสร้างความเชื่อมั่นว่า แก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่ผ่านมาให้เห็นว่า องค์การค้าฯ สามารถดำเนินการได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสสวท. เจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งต้องมาหารือกันอีกครั้ง แต่หากนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการศธ. เห็นว่า องค์การค้าฯ ควรเป็นผู้จัดพิมพ์ ก็อาจต้องเป็นไปตามนโยบาย

นายดิศกุล กล่าวต่อว่า การที่องค์การค้าฯ ได้โควตาจัดพิมพ์หนังสือเรียนของสสวท. จะเพิ่มรายได้ให้องค์การค้าฯ มากน้อยเท่าไรนั้น ไม่สามารถบอกได้ แต่ก็ทำให้องค์การค้าฯ เกิดสภาพคล่อง สามารถบริหารธุรกิจต่อไปได้ โดยไม่ต้องปลดพนักงานตามแผนเดิม ซึ่งตนวางนโยบายไว้ว่าองค์การค้าฯ ต้องอยู่รอด อยู่ได้ อยู่ดี มีสวัสดิภาพ แต่ตอนนี้ธุรกิจอยู่ได้ มีลูกค้าก็ทำให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้ระยะหนึ่ง สิ่งสำคัญคือการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน เพื่อมาช่วยฟื้นฟูองค์การค้าได้ให้เดินหน้าต่อไป

“ส่วนความคืบหน้าการบริหารจัดการสกสค. นั้น อยู่ระหว่าง การพิจารณาระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวของกับสวัสดิการและสวัสดิภาพครูซึ่ง พบว่า บางอย่างมีความซ้ำซ้อน ดังนั้นจึงพยายามจะนำระเบียบบางตัวมารวมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหาร โดยอาจต้องมีการปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเร่งดำเนินการ เรื่องประกันสินเชื่อของผู้กู้โครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) โดยจะดูอัตราเบี้ยประกันให้เป็นที่พอใจกับทุกฝ่าย มากยิ่งขึ้น ส่วนการแก้ปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นในสกสค.นั้น ได้มอบหมายให้คณะทำงานไปรวบรวม คดีทุจริตที่ใกล้จะหมดอายุความ เพื่อเร่งดำเนินการต่อไป อย่างกรณีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงิน ช.พ.ค. ซื้อหุ้น จากบริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัดในราคาหุ้นละ 25 บาท เป็นเงินหว่า 800 ล้านบาท ซึ่งสูงมากกว่าตามราคาหุ้นในขณะนั้น แต่ภายหลังมีข้อตกลง โดยทางบริษัทหนองคายน่าอยู่ฯ จะซื้อหุ้นคืน โดยจะทยอยรับโอน และชำระเงินตามจำนวนหุ้นในระยะเวลา 5 ปี ส่วนหุ้นที่ยังไม่รับโอน บริษัทฯ จะจ่ายค่าตอบแทนในอัตราร้อยละ 5 ของจำนวนเงินที่บริษัทยังไม่รับโอน นั้น ก็ต้องดูรายละเอียด เพราะข้อมูลต่าง ๆ ก็ยังไม่ชัดเจน “นายดิศกุลกล่าว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments