นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษา (กกศ.) เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้ขอความร่วมมือต่อที่ประชุม กกศ.ให้กรรมการ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากหลายภาคส่วนนำแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่มี 7 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1.การปฏิรูประบบการศึกษาและการเรียนรู้โดยรวมของประเทศ โดย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่และกฎหมายลำดับรอง 2.การปฏิรูปการพัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน 3. การปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 4. การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตคัดกรอง และพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพ 5.การปฏิรูปการจัดการเรียนการสอน เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 6. การปรับโครงสร้างของหน่วยงานในระบบการศึกษา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนและยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษา และ 7. การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยการพลิกโฉมด้วยระบบดิจิทัล โดยให้กรรมการ กกศ.ไปรวมกลุ่มตามความถนัดใน 7 หัวข้อดังกล่าว แล้วนำไประดมความคิดเห็นเพิ่มเติมจากนักวิชาการ ประชาชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้สนใจในการศึกษา
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวงต่อไปว่า ทั้งนี้ตนได้กำชับให้เปิดรับฟังความคิดเห็นในหลาย ๆ ช่องทาง โดย ศธ.จะกำหนดระยะเวลา และสนับสนุนงบประมาณด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ที่อาจไม่เคยได้รับมาก่อน เพื่อนำผลการระดมความคิดเห็นแต่ละเรื่องมาผสมกับแนวทางของ ศธ.ที่ดำเนินการอยู่ แล้ววางแนวปฏิบัติซึ่งน่าจะช่วยให้เด็กได้รับประโยชน์อย่างครอบคลุมมากขึ้น ส่วนการแก้ กฎกระทรวงซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ…แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 ที่กำหนดให้มีหลักสูตรประกาศนียบัตรเตรียมอาชีวศึกษา เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เด็กประถมศึกษาสามารถเรียนต่อสายอาชีพได้เลย ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มจำนวนผู้เรียนสายอาชีพ