เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ. เสนอ แต่งตั้งโยกย้าย นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ไปเป็นศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 15 ภาคเหนือตอนบน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ายังไม่ได้ทุจริต เพราะยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่ทำตามนโยบาย ซึ่งตนต้องการสอบสวนให้ลึกซึ้งว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง อย่างไรก็ตาม การใช้งบฯจำนวน 279 ล้านบาท เริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ขณะนี้เรามีข้อมูลชัดเจนว่าไม่ได้สำรวจความต้องการของโรงเรียนจริง ๆ จัดทำไปก่อน แล้วส่งลงไป จากนั้นจึงค่อยไปถามโรงเรียนว่า เอาหรือไม่เอา นอกจากนั้นยังมีการยัดไส้เพิ่มเติม ตนจึงต้องการสอบสวนให้ชัดเจน จึงต้องย้ายนายณรงค์ ออกจากตำแหน่งก่อน และตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยทีบุคคลภายนอกเป็นประธาน เพื่อมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว ถือว่าตรงไป ตรงมาไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายณรงค์ เป็นระดับรองกพฐ. การเซ็นอนุมัติงบจะต้องให้ผู้บังคับบัญชาอนุมัติก่อนหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า มีคนถามประเด็นนี้มาเช่นกัน แต่คงต้องให้นายณรงค์ ชี้แจง เพราะนายณรงค์เป็นคนเซ็น และตอนนั้น นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการกพฐ. เดินทางไปราชการต่างประเทศ รองเลขาธิการกพฐ. ในฐานะรักษาการฯ มีอำนาจเซ็นได้ และที่สำคัญ เรื่องนี้คนชง ก็ไม่ใช่คนที่มีอำนาจดูแล แต่เป็นรักษาการ และตนได้สอบสวนเบื้องต้น คนที่เป็นเจ้าของเรื่องจริง ๆ ได้สั่งการแล้วว่า อย่าเซ็น แต่ก็ยังเซ็น ตนต้องสืบสวนต่อ ว่าใครที่สั่ง ทุกระดับ แต่ถ้าตรวจสอบถึงใครก็โดนหมด ส่วนนายณรงค์ถ้าตรวจสอบแล้ว ไม่มีความผิด ก็ย้ายกลับมา ตำแหน่งตรงนี้ตนจะยังไม่ดำเนินการสรรหาใหม่ จนกว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้แล้วเสร็จ
“มาตรการ คสช. ไม่ได้หมายความว่า การย้ายออกจากพื้นที่เป็นเรื่องผิด ส่วนที่ระบุว่า ทางเลขาธิการ กพฐ. สั่งระงับงบโครงการนี้ไปแล้วนั้น ถ้าระงับแล้ว แต่ทำไมถึงอนุมัติต่อ ผมยืนยันต่อสาธารณะชนว่า นโยบายของผม จะต้องทำงานอย่างโปร่งใส ตามความต้องการของโรงเรียน และงบประมาณ ซึ่งนอกจากกรณีนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังได้ สั่งการในที่ประชุมครม.ว่า กรณีที่ผู้อำนวยการโรงเรียนปล่อยให้ อาหาร นมเด็ก มีปัญหา ขโมยเงินเด็ก ให้ลงโทษอย่างเด็ดขาด และรุนแรง โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ฯของตัวเอง จะต้องรับผิดชอบด้วย “รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า
เรื่องนี้มีปัญหาร้องเรียนหลาย อย่าง เช่น บอกว่าเป็นงบฝึกทักษะ แต่ปรากฏว่า มีเจ้าหนึ่งร้องเรียนว่า เป็นการจัดซื้อชั้นวางหนังสือ และคนที่ร้องเรียน ก็บอกว่า มีการล็อกสเป็กชั้นวางหนังสือ ถ้าไปดูรายละเอียดแต่ละโครงการต้องตอบให้ได้ด้วย เช่น ถ้าเป็นงบฝึกทักษะ ฝึกทักษะอย่างไร ฉะนั้นเรื่องนี้ยังอีกยาว แต่เบื้องต้นใครที่เป็นคนเซ็นต้องรับผิดชอบ ทำตรงไปตรงมา เรื่องนี้ถือว่าเราได้ระงับความเสียหาย จะจงใจหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้มีแน่นอน ทั้งเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ เพราะปกติไม่มีใครเซ็น ถ้ายังร้องเรียนกันอยู่ แต่เท่าที่สอบถาม นายณรงค์ บอกว่า เซ็นเพื่อรอดูว่า รัฐมนตรีว่าการศธ. จะเอาอย่างไร ทั้งที่รู้ว่า รัฐมนตรีจะเอาอย่างไร และทั้งที่รู้มาตลอดว่ารายงานให้ตนทราบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 แล้วว่าจะไม่ทำ ตนไม่มีเจตนาจะกลั่นแกล้งใคร ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง ถ้าไม่ผิดอะไรก็ไม่ต้องห่วง จะคืนความเป็นธรรมให้
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวไม่ได้พูดคุยกับนายณรงค์ ก่อนที่จะเสนอให้ย้ายออกจากตำแหน่ง เพราะถือว่าเป็นคำสั่งในเชิงบริหาร และยังไม่ใช่การทุจริต เพราะถ้าตนคิดว่า เขาทุจริต คงย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ทั้งนี้การตรวจสอบปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นในสพฐ. ล่าสุดทราบว่านายบุญรักษ์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไปหลายเรื่องแล้ว ส่วนคืบหน้าการตรวจสอบการก่อสร้างโครงการสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นั้น เท่าที่ทราบ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ฯ อยู่ระว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ตามที่ตนได้สั่งการ ที่ให้ไปทำข้อมูลให้ชัดเจน อธิบายทั้งขั้นตอนการส่งให้แก้ไขแบบ และมีใครบ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง อยากให้ใจเย็น ๆและย้ำว่าไม่มีมวยล้มแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีข่าวการทุจริต การทำสัญญาซื้อขายสินค้า ระหว่าง องค์การค้าของ สำนักงานสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค.) กับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ช่วงปลายปี 2558 ที่มีวงเงินสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใส ในการปฏิบัติงานของอดีตผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ ที่มีพฤติการณ์ส่อว่าจะกระทำทุจริตฝ่าฝืนระเบียบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน และส่งผลทำให้องค์การค้าของ สกสค. เกิดความเสียหายเป็นเงินจำนวนถึง 200 ล้านบาท นั้น ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ยังไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าพล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการศธ. พบข้อมูลอะไรเพิ่มเติม จะรายงานให้ตนรับทราบเอง