“สุเทพ”กลับมาฟื้นระบบ “กลุ่มโรงเรียน”เป็นฐานเรียนรู้ร่วมกัน

เมื่อวันที่2 ก.ค. ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยใช้ “กลุ่มโรงเรียน” เป็นฐาน ซึ่งขณะนี้มีการร่างระเบียบ สพฐ. ว่าด้วยกลุ่มโรงเรียนขึ้น และนำเข้าที่ประชุมบอร์ด กพฐ.ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อออกเป็นประกาศต่อไป ทั้งนี้ในร่างระเบียบจะมีบทเฉพาะกาลกำหนดให้สถานศึกษาจัดตั้งกลุ่มโรงเรียนตามระเบียบภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ระเบียบประกาศใช้ คาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายใน ก.ค.นี อย่างไรก็ตามการจัดตั้งกลุ่มโรงเรียน จะให้โรงเรียนทุกขนาด ทั้งขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก รวมถึงโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา รวมกันเป็นกลุ่มตั้งแต่ 7-15 โรง ตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ เขตการปกครอง และการคมนาคมในการรวมกลุ่ม เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาคุณภาพการศึกษา ในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งการยกระดับคุณภาพการศึกษา การจัดการศึกษา การใช้ทรัพยากรร่วมกัน ทั้งบุคลากรและสถานที่ โดยให้มีการตั้งคณะกรรมการกลุ่มโรงเรียนขึ้น มีผู้บริหารสถานศึกษาทุกโรงเรียนในกลุ่มเป็นกรรมการ และเขตพื้นที่ฯ จะเลือกประธานและรองประธานตำแหน่งละ 1 คน ซึ่งคณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลเรื่องวิชาการและการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการศึกษา เช่น การติดตามประเมินผลนิเทศก์ การประสานงานและวางแผนร่วมกัน และมีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นที่ปรึกษาโดยตำแหน่ง

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาเคยมีการจัดทำกลุ่มโรงเรียนผลปรากฏว่าได้ผล แต่ระยะหลังเงียบหายไป แต่มีการจับกลุ่มเป็นเฉพาะเรื่อง เช่น กลุ่มสหวิทยาเขต กลุ่มสาระวิชา เป็นต้น ดังนั้นตนจึงต้องการรื้อฟื้นการจัดตั้งกลุ่มโรงเรียนขึ้นมาใหม่ โดยให้มีระเบียบ สพฐ.รองรับ เพื่อให้เป็นไปในแนวปฏิบัติเดียวกัน สะดวกในการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนอย่างมีระบบ ซึ่งเชื่อว่าถ้าทำได้อย่างสมบูรณ์จะทำให้สามารถขับเคลื่อนการศึกษาได้ดีมาก เพราะเรายึดหลักการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วม ให้พื้นที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ สพฐ.ยังมีกลุ่มคลัสเตอร์ (Cluster) ที่รวมเขตพื้นที่ฯ มารวมกัน 20 กลุ่ม เพื่อคุมเขตพื้นที่ฯ อีกทีหนึ่ง จะทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมีคุณภาพและดูแลได้ใกล้ชิดมากขึ้น