เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.)เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมกอปศ.ได้พิจารณาร่างสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่ง รศ.ศิริเดช สุชีวะ ประธานคณะอนุกรรมการครูและอาจารย์ จะกล่าวถึงรายละเอียดของร่างดังกล่าว อย่างไรก็ตามขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ กอปศ.ได้ส่งร่างไปที่คณะรัฐมนตรีแล้วก็ถือเป็นเรื่องของรัฐบาล ถ้ากฎหมายจะแท้งไปก็ถือว่าผลงานของ กอปศ.ที่ทำมา 2 ปี เป็นศูนย์ แต่โดยส่วนตัวถือว่าได้มาเรียนรู้และได้ประโยชน์มากมายแล้ว ต้องดูว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล และจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่ง กอปศ.จะทำรายงานผลงานของ กอปศ.ในเชิงการศึกษาวิเคราะห์ปัญหา และนำไปสู่วิธีการแก้ปัญหาในรายละเอียดต่างๆเสนอรัฐบาลต่อไป
รศ.ศิริเดช กล่าวว่า สำหรับร่างสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่ ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีสมรรถนะ 3 ด้านเป็นหลัก และมีสมรรถนะย่อย 9 สมรรถนะ คือ สมรรถนะที่ 1.ผู้นำการเรียนรู้ โดยเป็นผู้นำตนเองไปสู่การเรียนรู้, เป็นผู้นำครูให้เกิดการเรียนรู้สู่การพัฒนา, เป็นผู้นำจากสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ครู บุคลากรและชุมชน สมรรถนะที่ 2 ผู้นำการคิดและการปฏิบัติ โดยมีกรอบความคิดแบบเติบโต เชื่อว่าความสามารถ สติปัญญาพัฒนาได้, คิดเป็นระบบ และคิดเชิงนวัตกรรม, สร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างในด้านจิตวิญญาณความเป็นครู ความซื่อสัตย์สุจริต ความเป็นธรรมและเป็นประชาธิปไตย สมรรถนะที่ 3 ผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายที่ท้าทาย จูงใจครูและนักเรียนให้มุ่งสู่ผลลัพธ์ที่ท้าทาย, ส่งเสริมให้ครูรวมพลังนำการเปลี่ยนแปลงสู่สถานศึกษา, สร้างเครือข่ายพัฒนาสถานศึกษาและชุมชน และบริหารงานด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สารสนเทศ และการสื่อสาร เพื่อเพิ่มสมรรถนะการบริหาร ทั้งนี้ร่างดังกล่าวจะเสนอคณะกรรมการคุรุสภา เพื่อนำไปเป็นต้นร่างมาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารที่ว่าด้วยสมรรถนะผู้บริหารด้านต่างๆ เพื่อกำหนดมาตรฐานผู้บริหารสถานศึกษายุคใหม่ และเตรียมผู้บริหารตลอดจนคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาให้มีสมรรถนะตามที่กำหนด รวมถึงการประเมินผลสัมฤทธิ์ผู้บริหาร โดย กอปศ.จะจัดทำร่างตัวชี้วัดเพื่อประเมินสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาเสนอไปพร้อมกันด้วย เพราะที่ผ่านมาการสอบคัดเลือกผู้บริหารสถานศึกษาไม่ได้เน้นที่สมรรถนะ แต่เน้นการสอบ ก ข ค ง