เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน แถลงข่าวโครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านระบบออนไลน์หลักสูตร “Inner Power Teachers”  ร่วมกับ ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ พร้อมด้วย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ.  ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแถลงข่าว

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2567 กระทรวงศึกษาธิการ มีความยินดีที่จะมอบโครงการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านระบบออนไลน์หลักสูตร “Inner Power Teachers” โดยครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ นักพัฒนาศักยภาพมนุษย์ที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ในด้านนี้ ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจะมุ่งเน้นการพัฒนา Mindset ทักษะการสื่อสาร และเทคนิคการสอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ครูไทยได้พัฒนาศักยภาพตนเอง ทั้งในด้านการสอน การสื่อสารกับเด็กรุ่นใหม่ จำนวน 4 หลักสูตร ได้แก่ 1.Happiness and success mindset for Thai Teachers มุ่งเน้นการสร้างทัศนคติที่ดีและมีความสุขในการทำงานซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการสอนและความสำเร็จในอาชีพครู 2.Truth science for Thai Teachers มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิทยาศาสตร์และการสอนให้นักเรียนเข้าใจและใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการแสวงหาความจริง 3.Master your communication skills for Thai Teachers มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสารรอบด้านของครู เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียน ผู้ปกครองและเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 4.Train the true Trainers มุ่งเน้นพัฒนาครูให้มีทักษะในการเป็นวิทยากร สามารถถ่ายทอดความรู้ ทักษะให้กับเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการพัฒนาวิชาชีพครู

ครูเงาะ-รสสุคนธ์ กองเกตุ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่สอนมา สิ่งที่เห็นชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงของเด็ก ครูจะเจอเด็กที่เจ็บป่วยทางด้านจิตใจเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทั้งเด็กที่ป่วยซึมเศร้าหรือทำร้ายตนเอง โดยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2009 ที่มีการเข้าถึงโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย ครูจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีคนที่เข้ามาช่วยเหลือเด็กตรงนี้ ซึ่งสิ่งที่ครูเงาะมีคือองค์ความรู้ ทั้งด้าน Mindset ในการพัฒนาระบบความคิด หลักจิตวิทยา หลักสัจศาสตร์ และหลักอริยสัจ ที่เอาความจริงมาอธิบายการใช้ชีวิต ซึ่งใช้ได้กับทุกคน ทุกศาสนา รวมถึงหลักการสื่อสารที่เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน เราต้องทำให้โรงเรียนมีครูเป็นแม่แบบให้กับลูกศิษย์ให้ได้ เพื่อให้เด็กไม่ต้องหันไปหาความรู้ผิดๆ จากภายนอก เราจะเปิดใจนักเรียนผ่านการสื่อสารที่ถูกต้อง และด้วยหลักการสอนที่ทันสมัย จะทำให้ทุกวิชาไม่น่าเบื่อ ทำให้เด็กสนุกกับการเรียนได้จริง

. “เมื่อพูดคุยกับท่านพลตำรวจเอก เพิ่มพูน สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือ ท่านให้ความเห็นชอบและสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเน้นย้ำหลักการ “ทำดี ทำได้ ทำทันที” ซึ่งนอกจากการอบรมให้ความรู้กับคุณครูแล้ว คุณครูสามารถส่งต่อความรู้ในเรื่องการสื่อสารไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองได้ เพื่อให้พ่อแม่สื่อสารกับเด็กๆ ได้อย่างเหมาะสมกับวัยของเขา อีกทั้งหลักสูตรนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณครูกว่า 6 แสนคนทั่วประเทศ ได้พัฒนาทักษะการสื่อสารเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างรอบด้าน ได้ทั้งความรู้และสนุกกับการเรียน ทำให้นักเรียนและครู “เรียนดี มีความสุข” และยกระดับการศึกษาของประเทศไทยต่อไปอีกขั้นหนึ่ง

สำหรับโครงการนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สามารถพัฒนาตนเองได้ทุกที่ทุกเวลาแบบ Anywhere Anytime ผ่านเว็บไซต์ Learning OBEC ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อการศึกษาของชาติตลอดมา และภายในต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 จะมีการคัดเลือกผู้เข้าร่วมอบรมจากระบบออนไลน์ จำนวนไม่เกิน 200 คน โดยแบ่งเป็น ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 20 คน ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 30 คน ศึกษานิเทศก์ จำนวน 50 คน และครู จำนวน 100 คน เพื่อเข้าอบรม “หลักสูตรครูสัมมาทิฏฐิ (นำร่อง)” เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งจะสอนหลักสัจจศาสตร์ เพื่อความพ้นทุกข์ หลักการสื่อสารกับนักเรียน และหลักการสอนการถ่ายทอดที่สนุก และมีประสิทธิภาพ ภายในเดือนธันวาคม 2567 และนอกจากนี้ยังมีหลักสูตรจิตวิทยาการสื่อสารกับลูกวัยทีน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้ครูเข้าใจวิธีการสื่อสารกับเด็กรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล ลดความขัดแย้ง และส่งเสริมพัฒนาการที่ดีของวัยรุ่นได้อีกด้วย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ และสร้างครูที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาเยาวชนไทยให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศชาติ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments