เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการ ศธ.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า หัวข้อหลักที่ยกขึ้นมาประชุมในครั้งนี้ประเด็นสำคัญ คือ เรื่องของยาเสพติดกับเรื่องของความมั่นคง โดย กระทรวงศึกษาธิการได้รายงานถึงการดำเนินการเกี่ยวกับการรณรงค์ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา โดยเฉพาะเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้มีการประสานกับกระทรวงพาณิชย์ ว่า ถ้ามีการพบบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาจะมีอำนาจในการดำเนินการได้เพียงไร ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมอบอำนาจให้กระทรวงศึกษาธิการเข้าไปตรวจยึดได้หรือไม่ และอีกเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการรายงาน คือ การแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการโดยมอบหมายให้ กรมส่งเสริมการเรียนรู้(สกร.) ไปค้นหาเด็กที่ตกหล่นจากระบบการศึกษา เพื่อดึงเด็กกลับสู่ระบบการศึกษา โดยนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการว่า ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็ว
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังได้รายงานเกี่ยวกับการสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสถาบันชาติและบ้านเมือง ซึ่ง นายกรัฐมนตรีก็ได้มีข้อสั่งการว่า ให้ปลูกฝังจิตสำนึกกับเด็ก ในเรื่องความรักสามัคคี และ การต่อต้านยาเสพติด โดยให้ดำเนินการในลักษณะของการปฏิญาณตน และการปลูกฝังค่านิยมในการต่อต้านยาเสพติดตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และ อีกเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการรายงาน คือ แนวทางการผลิตและพัฒนากำลังคนในเรื่องของ IGNITE THAILAND ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อน โดยมีแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว มีทั้งการพัฒนาหลักสูตร การฝึกอบรมอาชีพ การพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะที่เรามีให้ดีกว่าเดิม หรือ Upskill การสร้างทักษะขึ้นมาใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงาน หรือ Reskill ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกันดำเนินการในเรื่องของการผลิตและพัฒนากำลังคนโดยเฉพาะนำคนในกลุ่มแรงงานอยู่แล้วมา Upskill และ Reskill เพื่อให้สามารถทำงานได้ทันที
“อย่างไรก็ตามวันนี้นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี ได้พูดว่า จริง ๆ แล้วในสถานศึกษาไม่ได้มียาเสพติดอะไรมากมาย เพียงแต่เราต้องการป้องกันโดยการปลูกฝังจิตสำนึกในเรื่องของการต่อต้านสารเสพติดตั้งแต่เด็ก เพื่อที่โตขึ้นมาจะได้ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเท่านั้น” ดร.สุเทพกล่าวและว่า ทั้งนี้เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดในโรงเรียนนั้น กระทรวงศึกษาธิการ จะมีการลงนามความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยในเร็ว ๆ นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน โดยจะมีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้ร่วมมือกับเฉพาะมหาดไทยเท่านั้นแต่จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและท้องถิ่นในการเข้าไปดูแลด้วย