เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ดร.สุรินทร์ มั่นประสงค์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ(สพร.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดให้มีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ และการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 โดย สพฐ.ได้มีหนังสือเรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตการคัดเลือกฯตำแหน่งต่าง ๆ ดังกล่าว ไปถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เพื่อให้การคัดเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เสมอภาค บริสุทธิ์ยุติธรรม โปร่งใสตรวจสอบได้ โดยห้ามมีการกวดวิชา ทำเอกสาร จำหน่าย แจกหรือกระบวนการใด ๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าสอบโดยเด็ดขาด นั้น วันนี้ สพฐ.ได้รับรายงาน ว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)เลย เขต2 ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการทุจริต โดยได้จัดกวดวิชาหรือติวผ่านระบบออนไลน์ ให้แก่ผู้ที่จะเข้ารับการคัดเลือกเป็นรองและผู้อำนวยการสถานศึกษา หลักสูตร 2 วัน เมื่อวันที่ 23 – 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่า มีความผิด ดังนั้น สพฐ.จึงได้สั่งมาปฏิบัติหน้าที่ที่ สพฐ. และตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว
“ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. มีนโยบายชัดเจนให้ดำเนินการจัดสอบครูผู้ช่วย และผู้บริหารสถานศึกษาด้วยความยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยได้มีหนังสือกำชับมาตรการป้องกันการทุจริตไปยังเขตพื้นที่การศึกษาการศึกษา โดยเน้นย้ำเรื่องการห้ามจัดติวหรือกวดวิชาเด็ดขาด แต่เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าว ไปจัดติว โดยมีการโฆษณาอย่างโจ่งแจ้ง จึงถือว่ามีความผิดชัดเจน ส่วนจะมีโทษสถานใดนั้น ต้องรอข้อมูลจากทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน” ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. กล่าว
