หยอก หยอก ประจำวันที่ 4 เมษายน 2567 *** พกหินดีกว่าพกนุ่น *** ควรมีใจหนักแน่นเข้มแข็ง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ *** ก่อนวันหยุดยาว เผื่อคิดถึงกัน นาน ๆ ทีก็ให้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง *** พูดถึงเรื่องการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งครูทุกคนก็เฝ้ารอฟังด้วยความตื่นเต้น ใจจด ใจจ่อ ว่าจะได้มีโอกาสได้รับด้วยหรือไม่ เพราะเขาไม่หวังกับเงินเลื่อนขั้นเงินเดือนแล้ว เพราะปีนี้สัดส่วนการคำนวณเงินเลื่อนขั้นเงินเดือนมันดูแปลก ๆ *** อุย…*** เข้าไปอ่านคอมเมนต์ของครูที่สอบถามตัวแทน จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา( ก.ค.ศ.)และตัวแทนสื่อที่เป็นคนกลางสอบถามข้อสงสัยประเด็นการปรับเงินเดือนครูแรกบรรจุและเงินชดเชยครูที่ได้รับผลกระทบ ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก สำนักงาน ก.ค.ศ. รายการห้องเรียนอารมณ์ดี เมื่อค่ำวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา ก็อดคิดไม่ได้ว่า..เอ้ยยย เอามาชี้แจงประเด็นข้อสงสัย หรือเอา ท่านมาเชือด เพราะคอมเมนต์ส่วนใหญ่จะ ด่า มากกว่า ชม เพราะตอบคำถามที่ครูต้องการไม่ชัดเจน ตอบไม่ตรงประเด็น คนถามก็ถามไม่ตรงใจครู…เอ้ออ หยอก หยอก ก็สงสาร ผอ.กลุ่มงานท่านนั้นอยู่นะ เพราะอาจจะตื่นเต้น หรือ ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ในประเด็น *** ทำไม ไม่ขึ้นเงินเดือนให้ทุกคน ทุกกลุ่ม *** จะได้มากได้น้อยก็ยังดีกว่าเลือกปฏิบัติ แต่ถ้าให้ หยอก หยอก ตอบ ก็จะบอกว่าเรื่องนี้ต้องไปถาม “รัฐบาล” ซึ่งเป็นผู้อนุมัติในหลักการ ก.ค.ศ.ก็เป็นแค่หน่วยงานปฏิบัติตาม “คำสั่ง”…ฮ่า ฮ่า ฮ้า! *** เคาะแล้วในขั้นตอนคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) กระทรวงศึกษาธิการ ที่มีการประชุมจัดโครงสร้างภายในกรมส่งเสริมการเรียนรู้(สกร.) โดยแบ่งเป็น 11 กอง 3 กลุ่มงาน เพื่อเสนอ ก.พ.ร.ชุดใหญ่พิจารณา แต่อย่างไรก็ตามทราบว่ามีการตั้งข้อสังเกตของกรรมการบางท่านว่า น่าจะเหลือเพียงกลุ่มงานเดียว ตามพ.ร.บ.กรมส่งเสริมการเรียนรู้ มาตรา 6 แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะผ่านข้อสรุปจาก ก.พ.ร.ชุดใหญ่แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะต้องนำเข้าการพิจารณาของกฤษฎีกา เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อประกาศใช้ต่อไป *** ก็ต้องมาลุ้นกันว่าเดือนพฤษภาคมนี้ โครงสร้าง สกร.ที่สมบูรณ์แบบจะคลอดทันหรือไม่ *** สุดยื้อ สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ค้างการพิจารณาของรัฐสภามาจากรัฐบาลที่แล้ว…ถ้าหยอก หยอก จำไม่ผิดสมองไม่กลวง ก็พอจำได้ว่า “เสมา1” พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ เจ้ากระทรวงเสมา ให้เหตุผลการย้าย “ดร.อรรถพล สังขวาสี” จากปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปนั่งในตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา ก็เพื่อให้ผลักดัน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ให้สำเร็จก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ ซึ่งดร.อรรถพล ก็ได้รับลูกตามข้อสั่งการ โดยได้ตั้งคณะกรรมการยกร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ โดยจะนำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ค้างการพิจารณาของสภาในรัฐบาลที่แล้วมาทบทวน และแก้ไขในส่วนที่ยังเป็นข้อขัดแย้ง เนื่องจากหลักการส่วนใหญ่ในร่างฉบับเดิมผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ดังนั้นการปรับปรุงแก้ไขก็จะทำเฉพาะประเด็นที่ยังมีความเห็นต่าง *** แต่จนถึงป่านนี้เหตุไฉนเรื่องนี้ถึงเงียบไป แต่มีพรายกระซิบว่ากรรมาธิการการศึกษา ที่มีพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน จะยกร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติขึ้นมาใหม่…วะ วะ ว้าวว…ก็ได้แต่พูดว่า***เป็นเรื่องธรรมชาติ…เด้ออออ *** ปรับโหมดมาแตะโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ “อควาเรียมหอยสังข์”ที่สร้างบนพื้นที่ ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ที่ถูกทิ้งร้างไปนานไม่มีคนเฝ้าล่าสุดก็ถูกโจรขโมยสายทองแดงที่กิโลกรัมละเป็นหมื่นไปขาย..ซะงั้น จะสร้างต่อไปหรือไม่นั้น ในสมัย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปดำเนินการตรวจสอบและจัดทำข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงและพัฒนางานก่อสร้างอควาเรียมหอยสังข์ ร่วมกับ กรมโยธาธิการและผังเมือง และสภาสถาปนิก ซึ่งสมัยนั้น ถ้าจำไม่ผิด ดร.สุภัทร รายงานว่าทำต่อเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว แต่ก็ได้เสนอ 6 แนวทางเลือกการใช้ประโยชน์ในอาคารอควาเรียมหอยสังข์ ให้ สอศ.พิจารณาเลือก โดยสมัยนั้น ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีการตัดสินใจว่าจะเลือกแนวไหนเสนอ น.ส.ตรีนุช เพราะป.ป.ช.ยังไม่ชี้มูลประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น และจนถึงขณะนี้ ป.ป.ช.ก็ยังไม่มีการชี้มูล แม้ว่า สอศ.จะทวงถามไป 2-3 ครั้งก็ตาม ก็ต้องรอต่อไปว่า เรื่องนี้ “เสมา1”ที่ชื่อ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ จะดำเนินการอย่างไรกับอควาเรียมเจ้าปัญหา***ส่วนเรื่องการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา SP 2 ก็รอตั้งกรรมการสอบละเมิดอยู่จ้า***
