เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สั่งการให้ได้สั่งการผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)ร้อยเอ็ด เขต 1 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดไม่พอใจที่ครูในโรงเรียนนั่งเก้าอี้ของตน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนจัดซื้อเก้าอี้ใหม่มาทดแทน โดยให้เร่งสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลต่อ สพฐ. ภายใน 7 วัน นั้น ล่าสุดทาง สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1 ได้รายงานผลการสืบข้อเท็จจริงแล้ว โดยพบว่า พฤติกรรมดังกล่าวของผู้อำนวยการโรงเรียน ถือเป็นกรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรงแล้ว เมื่อได้ผลสรุปก็จะดำเนินการทางวินัย ต่อไป
“เรื่องสวัสดิภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงความปลอดภัยในสถานศึกษา เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งเราไม่แบ่งแยกว่าเป็นผู้บริหารหรือระดับปฏิบัติการ เพราะทั้งครูและผู้บริหารต่างก็มีบทบาทและความสำคัญต่อการพัฒนาผู้เรียนและการศึกษาชาติ และเป็นคนของ สพฐ. รวมเป็น OBEC One Team ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากพบว่าเป็นกระทำการที่ไม่เหมาะสมก็ต้องได้รับการพิจารณาโทษเป็นกรณีไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามในอนาคต หากพบเหตุที่ไม่เหมาะสมใด ๆ ก็ตาม สามารถส่งข่าวแจ้งเหตุมายัง สพฐ.ได้ทันที สพฐ.พร้อมดำเนินทุกมาตรการเพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคน และมุ่งสู่การศึกษา “เรียนดี มีความสุข” ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” อย่างแท้จริง