เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษามีการสอบปลายภาค ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงปิดเทอมใหญ่ ที่นักเรียนจะได้พักผ่อนและทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่สนใจนอกโรงเรียน แต่ก็ยังมีกลุ่มนักเรียนที่ต้องเตรียมตัวสอบ A-Level เพื่อเตรียมพร้อมยื่นเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งการสอบ A-Level มีความสำคัญมาก เพราะสอบ 1 ครั้งสามารถใช้คะแนนยื่นเข้ามหาลัยได้ 3 รอบ ได้แก่ รอบโควตา รอบ Admission และรอบรับตรงเก็บตกรอบสุดท้าย ที่สำคัญยังเป็นคะแนนสำหรับยื่นเข้าเรียนในสายแพทย์ด้วย กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้จัดกิจกรรมเสริมความรู้นักเรียนระดับชั้น ม.6 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบวัดความรู้เชิงวิชาการ (Applied Knowledge Level: A – LEVEL) มอบเป็นของขวัญความรู้ เทคนิคพิชิตข้อยากให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยติวเตอร์ระดับประเทศ ในวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2567 ผ่าน OBEC Channel ทุกช่องทาง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในของขวัญที่ ศธ.มอบให้เยาวชนไทย น้อง ๆ ทุกคนสามารถเข้าเรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้น้อง ๆ คลายความกังวลก่อนสอบ ลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง และเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) รวมทั้งให้มีความมั่นใจในการทำข้อสอบมากขึ้น และขอให้ความมุ่งมั่นตั้งใจของน้อง ๆ นำพาให้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จ สามารถเข้าเรียนต่อในเส้นทางที่ใฝ่ฝันได้ทุกคน
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของนักเรียนชั้นประถมศึกษา จะมีการสอบปลายภาคและปิดเทอมช่วงปลายเดือนมีนาคม ก็อยากฝากครูผู้สอนช่วยกันดูแลเด็ก ๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีการศึกษานี้ ทั้งเรื่องของการเก็บคะแนน การเตรียมตัวสอบ รวมถึงเรื่องสุขอนามัยในโรงเรียน สุขภาพความแข็งแรงของนักเรียน โดยไม่อยากให้เด็ก ๆ ไม่สบายหรือเจ็บป่วยในช่วงสอบ เพราะอาจจะทำให้เสียโอกาสได้
“สำหรับช่วงปิดภาคเรียนใหญ่ที่จะถึงนี้ เด็ก ๆ จะได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้าน หรืออยู่นอกโรงเรียนมากขึ้น ก็ขอฝากพ่อแม่ผู้ปกครองหากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ช่วงปิดเทอมให้ลูกทำ เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่อยากเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย เมื่อเด็กได้ทำกิจกรรมในช่วงปิดเทอมก็จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะทางร่างกายและความคิด แต่ก็ขอให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของเด็กด้วย เช่น อุบัติเหตุจากการตกน้ำ หรือจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของเด็กไทย ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าคลาดสายตา อย่าให้เด็กเล่นใกล้แหล่งน้ำ รวมถึงอุบัติเหตุจากยานพาหนะ สิ่งของล้มทับ สัตว์มีพิษกัดต่อย ไฟดูด ไฟช๊อต เป็นต้น”รมว.ศึกษาธิการกล่าว