เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภายหลังสำนักงบประมาณได้พิจารณาคำขอเบื้องต้น โดย ศธ. ได้รับงบฯประมาณ 328,384.7 ล้านบาท นั้น ตามขั้นตอนเมื่อสภาฯรับหลักการในวาระแรก ก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ ซึ่ง ศธ. ก็ต้องไปชี้แจงรายละเอียด  ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีโครงการใดที่ กมธ.จะให้ความสำคัญหรือจะขอปรับลด แต่เราก็ต้องเตรียมความพร้อม เพราะทุกโครงการที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณ ถือว่ามีความสำคัญ  ก็ต้องชี้แจงเพื่อให้ได้งบฯมาดำเนินการตามนโบบายของ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ได้

ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ดูนโยบาย 10 ข้อของ รมว.ศึกษาธิการ มีความสำคัญทุกข้อ เพียงแต่ต้องนำมาดูว่าแต่ละนโยบายจะทำเรื่องใดก่อนหรือหลัง เช่น เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือ Anywhere Anytime เรียนฟรี มีงานทำ “ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” อาจจะให้ความสำคัญกับเรื่องทำคอนเทนต์ก่อน และทำแพลตฟอร์มควบคู่กันไป ส่วนเรื่องอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตหรือโน้ตบุ้ก อาจเริ่มดำเนินการแค่สถานศึกษานำร่องในกลุ่มโรงเรียน 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพก่อน ทั้งหมดนี้จะต้องบูรณาการนโยบายเข้าด้วยกัน เพื่อใช้งบฯที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่ชั้น กมธ. ส่วนตัวตนไม่มีความกังวล เพราะทั้งหมดอยู่ที่การชี้แจงความสำคัญของโครงการต่าง ๆ ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงให้กมธ.ได้เข้าใจว่า งานการศึกษาเป็นเรื่องที่สคัญ

” ปีงบฯ 2567 ศธ. ถูกปรับลดลงจากคำขอไม่มากนัก  ภาพรวมยังคงเป็นไปตามาตรฐานเดิม งบฯส่วนใหญ่ที่ได้รับเป็นงบฯบุคลากร  สำหรับหน่วยงานที่ได้รับงบฯสูงสุด คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กว่า 2 แสนกว่าล้านบาท  รองลงมาคือ สำนักงานปลัด ศธ. และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ซึ่งได้รับใกล้เคียงกันคือ  ประมาณ 2 หมื่นกว่าล้าน  ส่วนคำของบฯปี 2568 ก็อยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้”ดร.สุเทพกล่าว

 

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments