วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( กพฐ.) เปิดเผยว่า นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้เป็นผู้แทน ต้อนรับ ดร.ไอซาโอะ ทานิกุชิ ประธานสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ KOSEN ประเทศญี่ปุ่น และคณะ ในโอกาสการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น ครั้งที่ 9 โดยมี ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหาร ผู้แทนสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ KOSEN ประเทศญี่ปุ่น ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ ดร.ธงชัย ชิวปรีชา ผศ.ดร. ยุวดี นาคะผดุงรัตน์ นายภูริวรรษ คำอ้ายกาวิน ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่ปรึกษาและคณะกรรมการพัฒนาโรงเรียน วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เข้าร่วมการประชุม ณ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า กลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย กับ สถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติ KOSEN ประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษาวิทยาศาสตร์เพื่อความเป็นเลิศ นับแต่ พ.ศ. 2559 โดยส่งเสริมให้สถาบันโคเซ็นในภูมิภาคเป็นสถานศึกษาร่วมพัฒนากับโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ทั้ง 12 โรงเรียนของไทย พัฒนาครูและบุคลากรร่วมกัน และมีการสนับสนุนทุนให้นักเรียนไทยไปศึกษาต่อ ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบันมีนักเรียนทุน รวม 94 คน โดยแนวคิดการจัดการศึกษา KOSEN ประเทศญี่ปุ่น มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนานักเรียนที่เป็นเลิศด้านวิชาการ ให้มีความรู้ความสามารถ พัฒนานวัตกรรมไปช่วยแก้ปัญหาสังคม “เป็นหมอของสังคม” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ) ที่มุ่งให้นักเรียนได้ค้นพบความถนัดและเป้าหมายของตนเอง มีทักษะที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ เป็นพลเมืองดี ที่มีคุณภาพและมีความสุข
“ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่น และสถาบัน KOSEN ได้ให้การสนับสนุนทางวิชาการ และดูแลช่วยเหลือกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยและนักเรียนไทยเป็นอย่างดียิ่ง การประชุมคณะกรรมการความร่วมมือทางวิชาการ ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะ สพฐ. จะได้กระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน เพื่อความสำเร็จในการพัฒนาเยาวชน ญี่ปุ่นและไทย ในทศวรรษหน้าต่อไป”ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าว