เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดพิธียกย่องเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ทางการศึกษา ประจำปี 2566 “ร้อยรักดวงใจ…สานสายใย สพฐ.” ณ บริเวณลานจอดรถอาคารสามัญ 99 กระทรวงศึกษาธิการ โดยมี ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน และมอบใบประกาศเกียรติคุณบัตรแผ่นทองคำรีด พร้อมครุฑเลี่ยมชุบทอง และชุดแก้วน้ำชาเบญจรงค์ แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ฯ ซึ่งเป็นผู้เกษียณอายุราชการในปี 2566 จำนวน 36 คน โดยมี ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ อดีตเลขาธิการ กพฐ. นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ นางวรางคณา ไชยเรือน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร นายปรพล แก้วชาติ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต รวมถึงข้าราชการ และบุคลากรของ สพฐ. เข้าร่วมแสดงความยินดีในพิธี

สำหรับพิธียกย่องเชิดชูเกียรติแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ทางการศึกษา ประจำปี 2566 จัดขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับผู้เกษียณอายุราชการที่ทำคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เกษียณอายุราชการในปี 2566 นี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ดร.อนันต์ พันนึก ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ.  ดร.อโณทัย ไทยวรรณศรี ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน นางลำพึง ศรีมีชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส พร้อมด้วย ข้าราชการ และลูกจ้างประจำ รวมจำนวน 36 คน

โดย ดร.บุญรักษ์ กล่าวว่า ทุกคนทราบดีว่าตนกับ ดร.อัมพรเติบโตด้วยกันมาอย่างไร ช่วยเหลือกันมาตลอดตั้งแต่เป็นหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ กับ ผู้ช่วยหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ มีผลงานด้วยกันมากมาย เมื่อตนเกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ก็ยังติดตามการทำงานของ ดร.อัมพร ก็จะได้ยินคน สพฐ. คนเขตพื้นที่ ครู อาจารย์ต่างพูดแซ่ซ้องว่า ดร.อัมพรเป็นคนดี เป็นกันเอง สามารถเข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการเป็นผู้บริหารที่ไม่ว่าจะมีอำนาจแค่ไหน ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่ให้ความรัก ความเมตตาต่อผู้น้อย ให้เขาพึ่งพาได้ ให้โดยไม่ใช่เพราะเขาเกรง กลัว เพราะตำแหน่งหน้าที่ทางราชการของเรา ซึ่งจะทำให้ความเป็นพี่เป็นน้องเกิดได้ และเมื่อเราอายุ 60 ก็จะพ้นจากหน้าที่ราชการสิ่งที่เคยผูกพันในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ไม่มีแล้ว ความเป็นผู้บังคับบัญชาก็ไม่มี แต่สิ่งที่เหลือเส้นใยต่อไปไม่ขาดคือความเป็นพี่เป็นน้อง มีพี่น้องในการทำงานตลอดไป

ดร.สุเทพ กล่าวว่า จากการหารือกับพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และผู้เกี่ยวข้อง ทุกคนรู้สึกเสียดายผู้ที่เกษียณอายุราชการในปีนี้นับตั้งแต่ ดร.อัมพร ลงมา โดย ดร.อัมพร ถือ เป็นเพชรเม็ดงามที่ผู้ใหญ่ต้องการให้ทำงานต่อหลังจากเกษียณอายุราชการไปแล้ว และเท่าที่ทำงานด้วยกันมา คิดว่า ดร.อัมพรมีความลุ่มลึก รอบคอบ เรียบร้อย มีความกตัญญู ให้เกียรติคน มีความมุ่งมั่นในการทำงาน ทำให้งานต่าง ๆ ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี โดย ดร.อัมพรเป็นผู้ที่สามารถประสานข้างบนได้ ประสานข้างล่างได้ ประสานคนเสมอกันได้อย่างดีเยี่ยม สามารถนำพา สพฐ.ให้ก้าวไปได้อย่างมาก และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้คุยกับ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ก็เห็นตรงกันว่าต้องให้ดร.อัมพรและอีกหลายคนที่เกษียณอายุในปีนี้ทำงานช่วยงานกระทรวงศึกษาธิการต่อ

ด้าน ดร.อัมพร กล่าวว่า ดีใจที่ได้ร่วมงานเกษียณฯปีนี้ แต่ความดีใจนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีต้นทุน โดยต้นทุนแรก เราต้องต่อสู้ด้นรนมาจนถึงวันนี้  อีกปัจจัยคือ ผู้บังคับบัญชาให้โอกาส และมีเพื่อนร่วมงานที่ดี และวันนี้ความเป็นข้าราชการได้สิ้นสุดลงแล้ว เหลือแต่ความเป็นพี่เป็นน้องที่จะคงอยู่ตลอดไป

ทั้งนี้ สพฐ. ได้จัดพิธีรับส่งงานในหน้าที่ราชการของเลขาธิการ กพฐ.  โดย ดร.อัมพร พินะสา และ ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. เพื่อให้สามารถดำเนินการขับเคลื่อนได้อย่างต่อเนื่องด้วย

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments