เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศึกษาธิการ) พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศึกษาธิการ)ได้ประชุมหารือผู้บริหารองค์กรหลัก และตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อรับฟังปัญหาหนี้สินครู ว่าที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ได้มีการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างไรบ้าง เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์แก้ปัญหาให้ตรงจุด ตรงไหนเป็นปัญหาใหญ่ และจะต้องเริ่มต้นแก้ปัญหาหนี้สินครูกันที่จุดไหนก่อน ทั้งนี้ เนื่องจาก รมว.ศึกษาธิการ ได้แก้ปัญหาหนี้สินครูประสบความสำเร็จมาแล้ว ในขณะดำรงตำแหน่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ดร.อรรถพล กล่าวต่อไปว่า วันนี้เป็นความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการและธนาคารแห่งประเทศไทย มาหารือเกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูซึ่ง ศธ.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผลการดำเนินการก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และ ปัญหาสำคัญ คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ส่วนหนึ่งไม่ค่อยให้ความร่วมมือ อีกส่วนหนึ่งคือ กลุ่ม NPL (หนี้เสีย)ซึ่ง  ศธ.ก็พยายามหาวิธีแก้ไขปัญหาว่าจะดำเนินการขับเคลื่อนกันอย่างไร ทั้งนี้จากการดำเนินการพบว่า ครู 900,000 คนทั่วประเทศประมาณ 80% มีหนี้สินรวมกันอยู่ประมาณ 1.4 ล้าน ๆ บาท ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ถึง 64% หรือ 8.9 แสน ล้านบาท หนี้ธนาคารออมสิน 25% หรือ 3.49 แสนล้านบาท นอกนั้นก็จะเป็นหนี้ธนาคารกรุงไทยและสถาบันการเงินต่างๆ ที่อยู่นอกระบบ

“ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือน 2551 ระบุว่า ในแต่ละเดือนครูจะต้องมีเงินเดือนสุทธิหลังจากชำระหนี้ทุกรายไม่น้อยกว่า 30% ซึ่งกำหนดไว้อย่างชัดเจนแต่ปัญหาในเชิงพื้นที่พบว่าหลายหน่วยงานไม่มีมาตรการ ไม่ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือน 2551 และปัญหาประการหนึ่งคือ  ประธานโครงสร้างแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นอำนาจในการบังคับบัญชาหน่วยงานอื่นจึงเป็นปัญหา ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ  จึงได้มอบหมายให้มีการปรับแผนงานและโครงสร้างของคณะกรรมการใหม่ โดยให้ผู้บริหารทุกแท่งมาเป็น HEAD ด้วย และทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยินดีที่จะมาให้คำแนะนำและแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ ให้ไปดำเนินการภายใน 15 วัน แล้วนำข้อสรุปกลับมาประชุมกันอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญที่ เสมา1 และ เสมา2 มีความประสงค์ที่จะดำเนินการสร้างขวัญกำลังใจให้กับครู ถ้าครูไม่มีหนี้สิน ก็จะส่งให้มีพลังในการสอนนักเรียนก็มีความสุขได้”ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

 

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments