เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2556 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดโครงการส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาศักยภาพของสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรของไทยทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมกับเดนมาร์ก ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สอศ. และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร และงานฟาร์ม ระหว่างไทยกับเดนมาร์ก ให้กับครู อาจารย์ และบุคลากร จำนวน 60 คน จากสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรทั้ง 4 ภาค ระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2566 ณ โรงแรมสยามธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
นายณรงค์ชัย เจริญรุจิทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ สอศ.กล่าวว่า การดำเนินโครงการนี้ มี Mr. Niels Erik Jespersen (ผู้เชี่ยวชาญการจัดการฟาร์มวัว) and Ms. Marianne Kyed (ผู้เชี่ยวชาญด้านฟาร์มสุกร) จาก Dalum Academy of Agricultural Business Denmark (สถาบันฝึกอบรมด้านธุรกิจเกษตร เดนมาร์ก) เป็นวิทยากรโดยมีหัวข้อดังนี้ 1.ประวัติศาสตร์ความเป็นมา และกระบวนการคิดและการสอนในเดนมาร์ก 2.ระบบการศึกษาในเดนมาร์ก 3.การจัดการ – การผลิตปศุสัตว์ 4.การจัดการฟาร์มโคนม 5.การเกษตรที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศ-รวมการจัดการข้อมูลและเครื่องมือเพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และการใช้สารอาหารให้เหมาะสม 6.การทําฟาร์มในอนาคต และฟาร์มอัจฉริยะ และ 7.โครงสร้างพื้นฐาน – การเกษตร – ธรรมชาติ – อุตสาหกรรมและชีวิตในเมือง เพื่อให้ครูและบุคลากรที่เข้าร่วมโครงการได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และนำความรู้ เทคนิคต่างๆ จากการบรรยายมาปรับ ประยุกต์ใช้ในการยกระดับศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของวิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ตลอดจนพัฒนาเสริมสร้างโครงสร้างให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร ที่เน้นความยั่งยืนตามนโยบายเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy)
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และเกษตรสมัยใหม่ ร่วมบรรยายพิเศษ ในโครงการฯ โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันทั่วโลกได้ให้ความสนใจกับ Smart Technology ที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มผลผลิตด้านการเกษตร และการลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกลุ่มเกษตร อาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านเกษตร อาหารและเทคโนโลยีสามารถอาศัยทุนความได้เปรียบในความหลากหลายเชิงชีวภาพ เพื่อต่อยอดการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนในทุกภูมิภาค จึงนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ครู อาจารย์ จากสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร ทั้ง 4 ภาคของไทยที่เข้ารับการอบรมจะได้ความรู้และเทคนิคต่างๆ สู่การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนด้านเกษตรกรรมของประเทศต่อไป