นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า นายอัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ได้มารายงานหลังลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.อุบลราชธานี ขอให้ตรวจสอบข้าราชการ 27 ราย ที่ใช้ตัวเลขเด็กซ้ำซ้อนเพื่อเป็นเกณฑ์การขอย้ายผู้อำนวยการจากโรงเรียนขนาดเล็ก ไปโรงเรียนขนาดกลาง และโรงเรียนขนาดใหญ่ ว่า จากการตรวจสอบทางลับตอนนี้ไม่พบว่ามีมูลเหตุที่โรงเรียนจะเอาจำนวนนักเรียนเพื่อเลื่อนตำแหน่ง และตนก็เชื่อว่าผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)จะรับเงิน อย่างไรก็ตาม แต่ก็ยังพบว่ามีโรงเรียนแห่งหนึ่งน่าจะมีมูลว่ามีการโอนชื่อนักเรียนประมาณ 40 คนเข้ามาที่โรงเรียนตัวเอง ที่ห่างกันออกไปประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)เพราะระบบของสพฐ.ถ้าเป็นโรงเรียนในสังกัดเดียวกันระบบจะเด้งออกมาทันที ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ง่าย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังพบปัญหาตัวเลขนักเรียนซ้ำซ้อน หรือ เด็กผี ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ดังนั้นตนจึงได้สั่งการให้ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการกพฐ.สะสางครั้งใหญ่ เหมือนกับโครงการอาหารกลางวัน เพราะเรื่องการแจ้งข้อมูลเท็จถือว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง นอกจากการทุจริตแล้ว และตนก็รับไม่ได้ ใครเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาไหนก็ให้รับผิดชอบโรงเรียนในเขตพื้นที่ของตนเองด้วย อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด จะดูเฉพาะภาพรวมไม่ได้ ผู้อำนวยการสถานศึกษาจะมานั่งปั้นตัวเลขเพื่ออะไร เด็กทุกคนจะต้องอยู่ในระบบการศึกษา สพฐ.จะต้องไปทำโปรแกรมให้รู้ว่าเด็กอยู่ที่ไหน ซึ่งเลขาธิการกพฐ.ก็รับปากว่าถ้าเด็กไม่มีตัวตนจริง ๆ ถึงแม้โปรแกรมยังไม่เสร็จก็จะไม่ส่งเงินลงไปให้