ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยถึงปัญหาตัวเลขนักเรียนซ้ำซ้อน หรือ เด็กผี ว่า ขณะนี้ตนได้สั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนกว่า 30,000 โรงเรียนทั่วประเทศ สำรวจจำนวนนักเรียนที่เรียนอยู่จริงในโรงเรียนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ทั้งนี้ถ้าเด็กย้ายไปเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ซึ่งอยู่ในสังกัดเดียวกันจะไม่มีปัญหาตัวเลขซ้ำซ้อน เพราะ สพฐ.มีระบบการตรวจสอบที่ชัดเจน แต่ถ้าย้ายไปเรียนโรงเรียนในสังกัดอื่น เช่น โรงเรียนในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ข้อมูลจะยังค้างอยู่ในโรงเรียนเดิมหากโรงเรียนไม่คัดชื่อเด็กออก ดังนั้น โรงเรียนปลายทางที่รับเด็กเข้าเรียนใหม่ควรดูหลักฐานการขอย้ายให้ถูกต้องด้วย เพราะตอนนี้ตนก็ได้รับรายงานจากกรรมการที่ลงไปตรวจสอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พบว่ามีโรงเรียนบางแห่งผิดปกติ อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานถ้าไม่มีเด็กเรียนอยู่จริง แม้นักเรียนยังไม่ลาออกก็ไม่ควรนำงบฯไปใช้ โดยเฉพาะงบฯโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ควรจะส่งเงินคืนกลับมาที่ส่วนกลาง
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายผู้อำนวยการโรงเรียนใน จ.อุบลราชธานี ขอให้ตรวจสอบข้าราชการ 27 ราย ที่ใช้ตัวเลขเด็กซ้ำซ้อนเพื่อเป็นเกณฑ์การขอย้ายผู้อำนวยการจากโรงเรียนขนาดเล็ก ไปโรงเรียนขนาดกลาง และโรงเรียนขนาดใหญ่นั้น ตนได้มอบหมายให้ดร.อัมพร พินะสา ผู้ช่วยเลขาธิการกพฐ.และฝ่ายกฏหมายของสพฐ.ลงพื้นที่ไปสืบหาข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่ามีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด