ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุการณ์เด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกรุ่นพี่ชั้นป.3 โรงเรียนเดียวกันกระทำชำเราในห้องน้ำของโรงเรียน ในวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก โดยผู้ปกครองของเด็กหญิงคนดังกล่าวได้ไปแจ้งความที่สภ.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แล้วนั้น ว่า ขณะนี้ทาง สพป.สุรินทร์ รายงานว่าได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ตนจึงได้กำชับด้วยว่าการดำเนินการใดๆ ขอให้คำนึงถึงเด็กเป็นสำคัญ ต้องปกป้องเด็กและอยู่ในขอบข่ายที่เหมาะสม ระมัดระวังไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก ซึ่งในหลักการทำงานเรื่องนี้ต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นทำให้ สพฐ.และโรงเรียนต้องหันมาทบทวนมาตรการต่างๆ ต้องคาดการณ์เหตุการณ์ให้เปลี่ยนไปจากสมมุติฐานเดิม เพราะด้วยโลกที่เปลี่ยนไปมีสื่อเทคโนโลยีที่พัฒนามากขึ้น ก็ต้องเรียนรู้และเตรียมการวางแผนรับมือ
ดร.บุญรักษ์กล่าวต่อไปว่าขณะเดียวกันสพฐ.กำลังทบทวนเรื่องการออกแบบอาคารต่างๆของโรงเรียนที่ต้องเน้นให้เอื้อประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาโดยเฉพาะคำนึงถึงความปลอดภัยสำหรับเด็กสอดคล้องกับการเจริญเติบโตของเด็กซึ่งตนได้ตั้งคณะทำงาน 1 ชุดประกอบไปด้วยวิศวกรทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนที่จะมาช่วยกันศึกษารายละเอียดปัญหาและข้อเสนอแนะที่เหมาะสมในการปรับปรุงรูปแบบอาคารเรียนอาคารประกอบต่างๆภายในโรงเรียนให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน
“ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนบางจุดเป็นมุมอับกลายเป็นภัยเงียบที่เราคาดไม่ถึงและที่ผ่านมาม.ล.ปริยดาดิศกุลเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ให้เสนอแนะแนวทางเชิงนโยบายว่าถึงเวลาแล้วที่สพฐ.จะต้องทบทวนการออกแบบสิ่งก่อสร้างโรงเรียนใหม่ตรงนี้ผมก็ได้นำมาทบทวนจะดูทั้งหมดทั้งรูปแบบอาคารต่างๆที่เรามีแบบอยู่แล้วดูถึงสถานที่ก่อสร้างซึ่งโรงเรียนบางแห่งอยู่พื้นที่สูงอยู่พื้นที่เกาะที่ผ่านมาจะมีค่าขนย้ายวัสดุเพื่อนำไปใช้ก่อสร้างค่อนข้างสูงแต่เดี๋ยวนี้วัสดุต่างๆมีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ก็จะมาดูว่าแบบไหนที่เหมาะสมมีคุณภาพและสะดวกในการขนย้ายก็ปรับแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆเราต้องกล้าเข้าไปเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการผังอาคารทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับเด็กได้เช่นต่อไปเด็กปฐมวัยอาจจะมีห้องน้ำในห้องเรียนไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเข้าห้องน้ำตามลำพัง”ดร.บุญรักษ์กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อ สพฐ.เขียนแบบเสร็จแล้ว วิศวกรและทุกอย่างเห็นด้วยแล้ว และไม่เป็นการไปเอื้อประโยชน์ให้ใครแล้ว สพฐ.ก็จะต้องทำราคา ทำรายการให้สำนักงบฯเห็นชอบก่อน ซึ่งกระบวนการตรงนี้ใช้เวลาเป็นปีๆ แต่ถ้าเราไม่เริ่มวันนี้ ไม่ว่าจะปีหน้าหรืออีก2 ปี ก็ยังไม่มีการเปลี่ยแปลง แต่ถ้าเราเริ่มต้นวันนี้ อีก1-2 ปีมีการเปลี่ยนแปลงก็ยังดีกว่า