วันนี้(31 ต.ค.) นายวิสัย เขตสกุล เลขาธิการชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรครู 4 ภูมิภาค เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ได้มาแสดงความยินดีที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.พร้อมทั้งยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และติดตามสถานะของกองทุนสนับสนุนพิเศษโครงการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งได้มีการหักเงินไว้ร้อยละ 1 ของจำนวนเงินกู้ เพื่อเป็นสัจจะของสมาชิก ช.พ.ค.ว่า เมื่อได้ชำระเงินกู้เสร็จสิ้นแล้วจะได้รับเงินส่วนนี้คืน โดยแยกส่วนจากเงินที่ธนาคารออมสินคืนให้กองทุนสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการกองทุนฯ โดยทางชมรมครูประชาบาลฯ ต้องการติดตามว่าเงินส่วนนี้ยังมีอยู่หรือไม่ เป็นเงินเท่าไหร่ และอยู่ที่ไหน เนื่องจากจำนวนผู้กู้โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ทุกโครงการมีประมาณกว่า 6 แสนคน ถ้าเฉลี่ยกู้คนละ 1 ล้านบาท จะมีเงินสัจจะประมาณ 600 ล้านบาทซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยจึงต้องการรู้ว่าเงินอยู่ที่ไหน ใครเป็นผู้ดูแล
“โดยหลักการเงินสัจจะส่วนนี้ครูที่ชำระหนี้หมดแล้วจะได้รับคืนไป แต่ขณะนี้สิ่งที่ทางชมรมครูประชาบาลฯตั้งข้อสังเกตคือ เงินส่วนนี้ยังมีอยู่หรือไม่ ถ้ายังมีอยู่เก็บไว้ที่ไหนอยากให้มีการแสดงข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อครูจะได้สบายใจ และมีการบริหารจัดการอย่างไร เพราะเงินส่วนนี้จะต้องแยกออกมาจากเงินที่ธนาคารออมสินจ่ายให้กองทุนสนับสนุนพิเศษฯ และขณะนี้เงินส่วนนี้ได้ยกเลิกไปแล้ว”นายวิสัย กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มครูออกมาแสดงเจตนารมณ์จะไม่ชำระหนี้ มั่นใจว่าครูส่วนใหญ่ที่กู้เงินไม่ได้มีความคิดอย่างนั้น เพราะครูมีหน้าที่สอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดี และเป็นแบบอย่างที่ดีเมื่อเป็นหนี้ก็ต้องใช้ จะไม่ออกมาสร้างความปั่นป่วน จนทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม และไม่ให้สังคมตราหน้าได้ว่าเป็นครูแล้วไม่เป็นแบบอย่างที่ดี