เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เปิดเผยกรณีผู้เสียสิทธิ์ร้องเรียนการย้ายเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)สมุทรปราการ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ประจำปี 2565 ที่กำหนดให้ผู้ประสงค์ย้ายยื่นคำร้องขอย้ายได้ระหว่างวันที่ 1-15 กรกฏาคม 2565 และกำหนดให้ดำเนินการย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน และจนถึงเดือนธันวาคม ก็ยังไม่มีการดำเนินการ ว่า เมื่อพระราชบัญญัติ( พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 ซึ่ง คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) จะต้องถ่ายโอนอำนาจบริหารงานบุคคลให้เขตพื้นที่การศึกษา มีผลบังคับใช้แล้ว ดังนั้น ในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาที่ยังค้างท่ออยู่ ศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.)ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน จะต้องนำเรื่องที่คณะกรรมการกลั่นกรองและคณะกรรมการประเมินให้คะแนนผู้ที่มีคุณสมบัติได้ย้ายเป็นผู้บริหารสถานศึกษาที่ว่างอยู่ให้ กศจ.พิจารณาการย้าย แต่หากมีข้อขัดแย้งในการให้คะแนนของคณะกรรมการฯก็ส่งเรื่องทบทวนพร้อมตั้งข้อสังเกตส่งไปให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทบทวนอีกครั้ง
“ผมคิดว่า กศจ.ต้องรีบดำเนินการในเรื่องการบริหารงานบุคคล ทั้งเรื่องการขึ้นเงินเดือนให้กับครูและการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งกรณีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาของ สพม.สมุทรปราการ ถ้า กศจ.มีมติให้ สพม.สมุทรปราการไปทบทวน ก็ต้องตั้งข้อสังเกตการให้คะแนนของคณะกรรมการฯด้วยว่าเป็นเพราะอะไร เช่น เรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ อายุราชการ วิสัยทัศน์ เป็นต้น ไม่ใช่จะมาทำคะแนนเอง เพราะอำนาจการให้คะแนนขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกลั่นกรอง และกรรมการประเมินการให้คะแนน ไม่ใช่อำนาจของกศจ.”ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว