นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์การค้า(อค.) ของสกสค. ว่า วันนี้ได้มีการประชุมเพื่อทำความเข้าใจการทำงานร่วมกับองค์การค้าฯ เพราะองค์การค้าฯเป็นส่วนหนึ่งของสกสค. เพราะฉะนั้นไม่ว่า ความสำเร็จ หรือความล้มเหลวย่อมส่งผลกระทบต่อสกสค. ในการดำเนินงาน ซึ่งตนได้มอบการบ้าน ให้ทั้ง 2 ฝ่ายไป ดำเนินการจัดทำแผนเพื่อนำมาเสนอในที่ประชุมอีกรอบในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม โดนอันดับแรก ให้ไปคิดแก้ปัญหาอัตรากำลังคน ซึ่งขณะนี้องค์การค้าฯ มีภาระหนักในเรื่องการจ่ายเงินเดือนลูกจ้าง พนักงานถึงเดือนละ 40 กว่าล้านบาท โดยให้ไปศึกษาข้อกฎหมาย เพื่อทำแผนถ่ายโอนกำลังคน เพื่อลดภาระในเรื่องการจ่ายเงินเดือนขององค์การค้าฯ นอกจากนี้ ทางองค์การค้าฯ ยังแจ้ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตัดโควตาการจัดพิมพ์หนังสือเรียนขององค์การค้าฯ เหลือ 70% ทำให้ตัวแทนร้านค้าขอถอนตัวกว่า 90 แห่ง จากที่มีทั้งหมด ประมาณกว่า 100 แห่ง ทำให้องค์การค้าฯ เกิดความกังวล อย่างไรก็ตามที่ประชุมจึงให้มองวิกฤตเป็นโอกาส โดยจะยกเลิก สัญญาที่ทำไว้กับตัวแทนร้านค้าฯทั้งหมด และเปิดให้มีการซื้อขายได้อย่างเสรี
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมาองค์การค้าฯ ได้ทำสัญญากับตัวแทนร้านค้าฯ ว่าจะต้องมีการวางเงินมัดจำค่าหนังสือเรียนรายละ 10 ล้านบาทในระยะเวลา 3 ปี โดยมีข้อตกลง ไม่ให้มีการขายข้ามเขต ทำให้ผู้ค้ารายย่อยไม่สามารถเข้าถึงสินค้าขององค์การค้าฯได้ ตนจึงได้มอบให้ไปดูข้อกฎหมายว่า สามารถยกเลิกสัญญากับคู่ค้าฯ ได้ทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งผ่ายกฎหมาย พิจารณาแล้ว บอกว่า สามารถยกเลิกได้ ดังนั้น เราจะใช้วิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ปลดล็อคให้มีการค้าขายอย่างเสรี รวมถึงจะมีการพิจารณาส่วนลด ซึ่งเดิมจะให้ส่วนลด 27% กับตัวแทนร้านค้าทุกแห่งเท่ากันหมด แต่จากนี้ การให้ส่วนลด จะพิจารณาจากระยะเวลา ถ้าใครมาเร็ว วางเงินมัดจำมากกว่า ก็สมควรที่จะได้ส่วนลดมากกว่ารายอื่น ส่วนจะให้ส่วนลดสูงสุดเท่าไรนั้น ยังไม่มีการกำหนดเพดานที่แน่นนอน รวมถึงให้องค์การค้าฯ ไปเน้นผลิตสินค้าฯอื่นที่นอกจากหนังสือเรียน เช่น อุปกรณ์สะเต็ม อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างรายได้ ขณะเดียวกันยังให้องค์การค้าฯไปสำรวจทรัพย์สินและที่ดิน ว่ามีเท่าไร และที่ใดที่ยังไม่เป็นโฉนด ให้เร่งดำเนินการจัดการเอกสารสิทธิให้สมบูรณ์
“ หากจำเป็นต้องขายทรัพย์สินขององค์การค้าฯเพื่อมาแก้ไขปัญหาหนี้สินขององค์การค้าฯก็ให้เสนอมา หรือนำที่ดินและทรัพย์สินขององค์การค้าฯ ไปใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ได้ เพราะตอนนี้องค์การค้าฯ มีหนี้สินกว่า 4,000 ล้านบาท แต่ขอย้ำว่าจะไม่มียืมเงินของสกสค. หรือเงินโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และเงินโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม(ช.พ.ส.) ซึ่งเป็นเงินของครูอย่างเด็ดขาด”นายอรรถพล กล่าวและว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบให้องค์การค้าฯ เร่งทำการประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ ว่า องค์การค้าฯได้ทำข้อตกลงกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ให้องค์การค้าฯเป็นผู้รับจ้างที่ส่วนราชการสามารถใช้วิธีการจ้างแบบพิเศษได้ โดยการจัดซื้อจัดจ้างในวงเงินเกิน 500,000 บาท ไม่ต้องใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding