วันนี้ ( 25 พ.ย.2565) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล” ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตระหนักถึงความสำคัญต่อการป้องกันความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิง ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.ได้กำหนดให้เรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา เป็นหนึ่งใน 7 นโยบาย Quick Win วาระเร่งด่วน โดยมีการดูแลภัยคุกคามทุกรูปแบบ ทั้งภัยจากการคุกคามทางเพศ ภัยจากการกลั่นแกล้งรังแก (Bully) ภัยพิบัติ รวมถึงภัยที่เกิดจากโรคอุบัติใหม่ จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ซึ่งเราได้จัดตั้งศูนย์ “MOE SAFETY CENTER” โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลรับแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย ในหลายช่องทาง คือที่ แอปพลิเคชัน MOE Safety Center เว็บไซต์ www.moesafetycenter.com ไลน์ พิมพ์ไอดี @MOESafetyCenter และ คอลเซ็นเตอร์ โทร.02-126-6565 เพื่อรับแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยที่มีผลต่อนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงให้ความสำคัญกับการอบรมครูให้มีความรู้ มีทักษะที่จะนำไปสื่อสารกับเด็กในวัยเรียน ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้ที่เปิดใช้งานระบบ MOE Safety Center แล้วเกินกว่า 1 ล้านคน และตนได้ย้ำให้ให้ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่องทั้งระดับสถานศึกษา พื้นที่การศึกษา และระดับชาติ
“ ทั้งนี้ ซาราห์ นิบส์ ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ได้มีแถลงการณ์ เนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล 25 พ.ย. โดยอ้างถึงรายงานชุดใหม่ชื่อ “การสังหารผู้หญิงและเด็กหญิงเกี่ยวข้องกับเพศสภาพ (เฟมิไซด์/เฟมินิไซด์)” จัดทำโดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNDOC) UN Women ว่า ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กหญิง ยังคงเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่พบมาก โดยในปี 2564 มีผู้หญิงและเด็กหญิงราว 45,000 คนทั่วโลกถูกปลิดชีพโดยคู่รักหรือสมาชิกในครอบครัว หมายความว่า ทุก ๆ หนึ่งชั่วโมงผู้หญิงและเด็กหญิงกว่า 5 คน ถูกคนในครอบครัวตนเองสังหาร ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคิดเป็นสัดส่วนใหญ่สุด 18,100 ครั้ง ในเอเชีย 17,800 ครั้ง ในโอเชียเนีย 300 ครั้ง พร้อมระบุด้วยว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาความก้าวหน้าในการยุติความรุนแรงต่อสตรีไม่สม่ำเสมอ และจำเป็นต้องเร่งมืออย่างมากด้วยการกระทำที่แข็งแกร่งและจริงจังกว่าเดิม แม้ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างสูง แต่จำนวนที่แท้จริงของเฟมิไซด์คาดว่าสูงกว่านี้มาก ซึ่งทาง UN Women ได้เชิญชวนนานาชาติเข้าร่วมการเคลื่อนไหวต่อต้านความรุนแรงต่อเพศสภาพเป็นเวลา 16 วัน เริ่มต้นวันที่ 25 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากลต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 10 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุนโครงการรณรงค์ระดับนานาชาตินี้ โดยดิฉันและกระทรวงศึกษาธิการเอง เราไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉยต่อกระทำความรุนแรงต่อสตรีและเด็กทุกคน ” รมว.ศธ.กล่าว