เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 ดร.อรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ได้เตรียมหารือกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการสรรหาผู้บริหารระดับต้น แทนตำแหน่งว่าง 5 อัตรา คือ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) 1 ตำแหน่ง และรองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) 2 ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) 1 ตำแหน่ง และรองศึกษาธิการภาค (ศธภ.) 1 ตำแหน่ง คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 3 สัปดาห์ เมื่อดำเนินการสรรหาผู้บริหารระดับต้น เรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการสรรหาผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งระดับอำนวยการสูง สำนักงานปลัดศธ. อีก 3 อัตรา ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักตรวจติดตาม ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรองผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การยูเนสโก จากนั้นจะดำเนินการสรรหาตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง คือ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และรองเลขาธิการกพฐ.แทนตำแหน่งว่าง เพื่อให้การทำงานเกิดความต่อเนื่อง ซึ่งจะหารือกับน.ส.ตรีนุช พิจารณาเลือกผู้เหมาะสม ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการกอศ.และรองเลขาธิการกพฐ.ด้วยการโยกย้ายหรือสรรหา
ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะเสนอรมว.ศึกษาธิการ แต่งตั้ง ศธภ. ให้ครบทั้ง 12 ตำแหน่ง ตามคำสั่งคสช.ที่19/2560 ซึ่งที่ผ่านมาได้แต่งตั้งศธภ. แล้ว 5 อัตรา ส่วนที่เหลือให้ผู้ตรวจราชการศธ. เข้าไปช่วยดูแล ทำให้การดำเนินการไม่คล่องตัวเท่าที่ควร ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องเร่งดำเนินการแต่งตั้งศธภ. ให้ครบทั้ง 12 ตำแหน่งตามที่กำหนดไว้นั้น เพราะงานนโยบายบางอย่าง ไม่ใช่ภาระหน้าที่ของผู้ตรวจราชการศธ. ซึ่งมีหน้าที่ตรวจติดตามงานตามแผนปฏิบัติการของศธ. รวมถึงให้คำแนะนำและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน แต่การทำงานเชิงพื้นที่ สำนักงานปลัดศธ. ไม่มีเครื่องมือในการทำงาน จึงต้องอาศัย ศธภ. และศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ในการขับเคลื่อนงาน ซึ่งที่ผ่านมาขาดการพัฒนาคนก่อนเข้าสู่ตำแหน่ง ทำให้การทำงานที่ผ่านมาอาจยังไม่ชัดเจน เกิดความขัดแย้ง ดังนั้น จึงต้องทำความเข้าใจ อำนาจหน้าที่และกรอบการทำงานระหว่าง ศธภ. ศธจ.และ ผู้ตรวจราชการศธ. ให้ชัดเจน เพื่อให้การทำงานเกิดการบูรณาการเชื่อมโยงกับพื้นที่ ซึ่งต่อไปจะต้องมีตัวชี้วัด เพื่อประเมินผลงานทั้งเชิงพื้นที่และนโยบาย เพื่อให้เกิดการผลักดันงบประมาณจากพื้นที่ เพื่อพัฒนาการศึกษา ในกลุ่มจังหวัดให้สอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่ ไม่ใช่รอแต่งบประมาณส่วนกลางเพียงอย่างเดียว ”ปลัดศธ. กล่าว