นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยถึงความมคืบหน้าการจัดสรรทุนโครงการเสมาพัฒนาชีวิต ปี 2561 ว่า ขณะนี้ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้ส่งรายชื่อผู้ที่จะรับทุนจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตมาแล้ว โดยเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 จากวิทยาลัยพยาบาล 25 แห่ง จำนวน 213 คน ที่จะรับทุนการศึกษาประจำปีการศึกษา 2561 และ ครูอัตราจ้าง ปีงบประมาณ 2562 ในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ของ สพฐ. จำนวน 49 คน ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เมื่อคณะกรรมการกองทุนให้ความเห็นชอบแล้วจึงจะเสนอขอใช้เงินสนับสนุนให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลและจ่ายเงินเดือนครูอัตราจ้างดังกล่าวต่อไป
นายการุณ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารการเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตถูกต้อง รัดกุม และไม่เกิดปัญหารั่วไหลเหมือนที่ผ่านมา ทางกองทุนฯได้มีการทำคู่มือการเบิกจ่ายเงิน โดยระบุขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่เริ่มกระบวนการคัดเลือกผู้รับทุน เมื่อได้รายชื่อผู้รับทุนมาแล้ว ทางสำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา ซึ่งเป็นฝ่ายเลขานุการกองทุนจะนำเสนอรายชื่อให้คณะกรรมการกองทุนพิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจะแจ้งรายชื่อกลับไปยังต้นสังกัด คือ สธ. และ สพฐ.อีกครั้ง เพื่อแจ้งให้ทราบว่าใครได้รับทุนบ้าง แล้วให้ส่งเอกสารสำเนาหน้าบัญชีของสถานศึกษาและผู้ได้รับทุนกลับมา ซึ่งทั้งสถานศึกษาและผู้ได้รับทุนจะต้องเปิดบัญชีใหม่ โดยระบุให้ชัดเจนว่ากองทุนเสมาพัฒนาชีวิตของสถานศึกษานั้น ๆ ขณะที่บัญชีเด็กก็เช่นกันต้องเปิดบัญชีกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตตามด้วยชื่อเด็ก
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นสังกัดส่งรายชื่อกลับมาแล้วจะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อให้ตรงกันอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงจะเสนอขออนุมัติเบิกจ่าย และเมื่อเรื่องไปถึงกองคลัง หรือ กลุ่มบริหารการคลังและสินทรัพย์ ก็จะมีการตรวจสอบรายชื่อที่ทางฝ่ายเลขานุการกองทุนส่งให้กับรายชื่อที่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งจะต้องตรงกันด้วย เมื่อตรวจสอบถูกต้องเรียบร้อยแล้วจึงจะโอนเงินไปยังสถานศึกษาผ่านบัญชีกองทุน เพื่อให้สถานศึกษาโอนเงินต่อให้เด็ก เมื่อเด็กได้รับเงินแล้วจะต้องส่งหลักฐานการรับเงินกลับมาพร้อมกับหลักฐานการรับเงินและหลักฐานการโอนเงินของสถานศึกษาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กได้รับเงินแล้ว
“ การที่ต้องมีการตรวจสอบกลับไปกลับมาและตรวจซ้ำหลายรอบก็เพื่อความถูกต้องและไม่ให้เกิดช่องโหว่ รวมถึงไม่ให้มีช่องให้สามารถนำบัญชีใครมาสวมได้อีก หรือมีการทุจริตขึ้นได้อีก ส่วนการดำเนินการเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางละเมิดเกี่ยวกับการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ตั้งแต่ปี 2548-ปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ”นายการุณ กล่าว