เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในการแถลงข่าว “การสรรหาครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5” ว่า เป็นที่ยินดีอย่างยิ่งที่จะมีการสรรหาครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5 เพราะเป็นโอกาสสำคัญที่ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจ้าฟ้านักการศึกษา ที่ทรงเป็นองค์ต้นแบบด้านการศึกษาอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการกระตุ้นสังคมให้ร่วมกันเห็นคุณค่าของครูผู้ปฏิบัติหน้างานที่มีผลต่อการเรียนรู้และชีวิตของลูกศิษย์โดยตรง
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี หรือ Princess Maha Chakri Award เป็นรางวัลพระราชทานระดับนานาชาติที่มีเกียรติยศสูงยิ่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติครูดีเด่นในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศในอาเซียนและติมอร์-เลสเต จำนวน 11 ประเทศ และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงพระปรีชาและทรงมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการศึกษาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “คุณภาพการศึกษา ขึ้นอยู่กับคุณภาพครู คุณภาพครู ส่งผลต่อการสร้างคนคุณภาพ” รางวัลนี้จึงเป็นรางวัลของการยกย่องเชิดชูครู และกระตุ้นให้สังคมร่วมกันเห็นคุณค่าแก่ครูผู้อุทิศตนเพื่อลูกศิษย์ และมีคุณูปการต่อการศึกษา โดยมีครูจาก 11 ประเทศในอาเซียนและติมอร์-เลสเต ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ตั้งแต่ปี 2558 รวมแล้ว 44 ท่าน
“ทุกท่านได้สร้างคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษามากมาย เช่นเดียวกับครูไทยที่ได้รับรางวัล ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ แต่ยังได้รับการยอมรับจากวงการศึกษาในระดับนานาชาติอีกด้วย เนื่องจาก บทบาทของครู นับเป็นบทบาทที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่นักเรียนต้องเผชิญกับภาวะสูญเสียการเรียนรู้ หรือ Learning Loss จากการปิดสถานศึกษาในช่วงที่ผ่านมา จากรายงานของยูเนสโก ร่วมกับยูนิเซฟ และธนาคารโลก พบว่า มีเด็กอย่างน้อย 1.6 พันล้านคน ใน 188 ประเทศที่สุ่มเสี่ยงต่อการเรียนรู้ หรือเรียนไม่รู้เรื่อง จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้ต้องปิดโรงเรียน มาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ คือการเปิดโรงเรียนอย่างปลอดภัย “ครู”จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการฟื้นฟูการเรียนรู้ของผู้เรียน” น.ส.ตรีนุชกล่าวและว่า บทบาทครูมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกู้วิกฤติภาวะสูญเสียการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งกำลังเผชิญสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้ทั่วโลก จึงขอเป็นกำลังใจให้กับครู และเป็นโอกาสอันดีที่สังคมจะร่วมกัน ยกย่อง เห็นคุณค่าครูผู้อุทิศตนเป็นแบบอย่าง ซึ่งเชื่อมั่นว่า เรามีครูไทยที่เป็นผู้สร้างคุณูปการกับการศึกษา และอุทิศตนเพื่อลูกหลานให้เป็นคนคุณภาพจากทั่วประเทศแน่นอน อย่างไรก็ตามขอเชิญชวนลูกศิษย์และคนในสังคม ร่วมกันเสนอชื่อครูในรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในครั้งนี้ด้วย
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าวว่า การคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งนี้ เราคงจะได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะการคัดเลือกครูที่มีนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เนื่องจากการจัดการศึกษาเกิดขึ้นได้เพราะครู มีการเรียนการสอนหลายรูปแบบ มีทั้งปิดเรียน เปิดเรียนบางเวลา นอกจากนี้ยังมีปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบถึงการเรียนการสอนของเด็ก ดังนั้นการนำเด็กกลับมาเรียนก็เป็นสภาวการณ์ที่ยากลำบาก ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่ประเทศต่าง ๆ จะใช้ในการคัดเลือกครู
“สำหรับประเทศไทย รางวัลนี้เป็นรางวัลพระราชทานที่เป็นของคนไทยทุกคน โดยการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลพระราชทานสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี 4 ครั้งที่ผ่านมา 40% มาจากลูกศิษย์เสนอชื่อ ส่วนหนึ่งเสนอโดยสถานศึกษา ส่วนหนึ่งเสนอโดยองค์กรต่าง ๆ หรือประชาชนเสนอมาก็มี เพราะเป็นรางวัลที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม”ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กล่าว