เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการจัดการศึกษา “กัญชาและกัญชงสร้างสุขภาพสร้างรายได้” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ผู้อำนวยการ กศน.จังหวัด และ กศน.อำเภอ ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร นายสมคิด ดำน้อย ผู้อำนวยการศูนย์การวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย ผู้แทนจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผู้แทนจากภาควิชาอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เข้าร่วม
โดย ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า ถือเป็นการจัดประชุมเพื่อขับเคลื่อนการศึกษากัญชาและกัญชงสร้างรายได้ให้ประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ กศน.มีการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนี้อย่างจริงจัง แต่เมื่อมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดไป ปัจจุบันประชาชนเรียกร้องมาตลอดว่าเมื่อไหร่จะมีการจัดสัมมนา ประชุมเชิงปฏิบัติการ เพราะประชาชนเฝ้ารออยากนำกัญชามาสร้างรายได้รวมถึงการดูแลสุขภาพ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง กศน.จึงสานต่อขับเคลื่อนให้ความรู้กัญชาและกัญชง
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า กศน.เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทโดยตรงในการให้ความรู้เรื่องกัญชา และกัญชงอย่างถูกต้องแก่ผู้เรียน ทั้งในเชิงวิชาการและในเชิงอาชีพ โดยที่ผ่านมา กศน.ได้จัดทำหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับกัญชาและกัญชง ให้เป็นวิชาเลือกในระดับชั้น ม.ปลาย ซึ่งขณะนี้ กศน.ได้ขยายหลักสูตรกัญชาและกัญชงให้มีถึงระดับ ม.ต้น แล้ว ทั้งนี้ กศน.ไม่ได้มองว่าจะต้องให้ความรู้กับผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น มองว่าควรให้ความรู้ประชาชนทุกช่วงวัยให้มารับความรู้ ได้รับประโยชน์ ได้อบรมด้านอาชีพและสามารถพัฒนาต่อยอดขายสินค้าเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงได้จริง
“ดิฉันมอบหมายให้ผู้อำนวยการ กศน.จังหวัด วางแนวทางและทำแผนปฏิบัติงานให้ชัดเจนว่า ต่อไปจะทำอย่างไรให้ประชาชนได้เข้าถึงความรู้ที่ถูกต้อง โดยต้องให้ความรู้ทั้งผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป พร้อมกับให้แต่ละพื้นที่สำรวจว่าในพื้นที่ของตนมีผู้ที่ขออนุญาตปลูกกัญชาอย่างถูกต้องเท่าไหร่ พร้อมกับวางแผนอบรมเชิงวิชาการให้ประชาชนมีความรู้ สามารถนำกัญชาและกัญชงไปใช้อย่างถูกต้อง ไม่เป็นอันตรายและปลอดภัยต่อไป”ดร.กนกวรรณ กล่าว
