เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ ห้องประชุม สพฐ.1 ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานศาลปกครอง โดย ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.มีโรงเรียนอยู่ 3 หมื่นกว่าแห่ง มีนักเรียน 6 ล้านกว่าคน และมีครูกว่า 4 แสนคน จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่าครูร้อยละ 90 ไม่มีความรู้ความเข้าใจจะใช้ประโยชน์จากกฏหมายทางการปกครอง แต่ครูมีหน้าที่จัดการศึกษาให้กับคนในชาติจึงต้องมีความเข้าใจพื้นฐานของกฏหมายทางการปกครอง เมื่อครูนักเรียน โรงเรียนเข้าถึงองค์ความรู้ และเห็นประโยชน์ของกฏหมายในการพิทักษ์ รักษาสิทธิ จะทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำนักงานศาลปกครอง จะเข้ามาให้ความรู้แก่ครูกว่า 4 แสนคน โดยจะจัดวิทยากรมาให้ความรู้พื้นฐานกับครูและบุคลากรทางการศึกษา ผ่านทางระบบออนไลน์ (OBEC Channel) เพื่อให้ครูส่งต่อความรู้กับนักเรียนต่อไป โดยจะเน้นให้ครูให้ความรู้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาก่อน ให้นักเรียนได้รู้กฏหมายการปกครองและสิทธิหน้าที่ สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ นักเรียน ครู โรงเรียน และภาคประชาชนมีความเข้าใจสิทธิ และบทบาทหน้าที่ของตนความขัดแย้งก็จะลดน้อยลง การอยู่ร่วมกันก็จะมีความสุขมากขึ้น
นางสมฤดี ธัญญสิริ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือวันนี้ ถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่จะนำไปสู่การส่งเสริมให้การปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการให้ความรู้ในด้านกฤหมายปกครองแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นภาระกิจโดยตรงของสำนักงานศาลปกครอง ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ที่มีหน้าที่ให้ความรู้ทางด้านกฏหมายปกครอง แนวคำพิพากษาศาลปกครอง หลักปฏิบัติราชการที่ดี แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่สิ่งที่ศาลปกครองมีความประสงค์มากกว่ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา คือ เด็กและเยาวชนซึ่งจะเป็นอนาคตของประเทศชาติ ได้มีความรู้พื้นฐานตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนนำความรู้ทางด้านกฏหมายปกครองไปสู่ครอบครัวและพ่อแม่พี่น้อง ซึ่งการมีความรู้ด้านกฏหมายปกครองจะเป็นหลักประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และจะมีความเข้าใจว่าการปฏิบัติราชการที่ดีของหน่วยงานของรัฐคืออย่างไร และเมื่อถูกกระทำโดยมิชอบโดยหน่วยงานของรัฐ จะทราบว่าจะต้องไปหาใครจึงจะแก้ไขความเดือดร้อนให้ได้ สุดท้ายนี้ สำนักงานศาลปกครองมีความตั้งใจที่จะมาร่วมผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิสูงสุด
