เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณี นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) ไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานเลขาธิการ สกสค.ว่า สกสค.ถือว่าเป็นหน่วยงานสำคัญที่ดูแลสวัสดิการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นหลักเกณฑ์ที่จะนำมาใช้ในการชี้วัดการปฏิบัติงานของ เลขาธิการ สกสค. ก็ต้องเป็นเกณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งก็ได้นำเกณฑ์จากหน่วยงานอื่น ๆ ที่เป็นมาตรฐานมาเป็นแบบอย่างในการประเมินฯ โดยมอบให้ทางคณะกรรมการประเมินการปฏิบัติงานของเลขาธิการ สกสค. เป็นผู้พิจารณา เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญและเป็นตำแหน่งของผู้บริหารเพราะฉะนั้นการประเมินก็ต้องได้มาตรฐาน แต่ถ้าเลขาธิการ สกสค. จะร้องก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถร้องได้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไป ส่วนการส่งผลการปฏิบัติงาน ของเลขาธิการ สกสค.ต่อคณะกรรมการประเมินฯ นั้น ไม่แน่ใจว่าพ้นกำหนดเวลาส่งผลงานหรือยัง เรื่องนี้ต้องไปถามคณะกรรมการประเมินฯ อย่างไรก็ตามหากเลยกำหนดแล้วยังไม่ได้ส่งจะมีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องไปดูสัญญาและข้อกฎหมายก่อน
ด้าน นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ประธานคณะกรรมการประเมินฯ กล่าวว่า คณะกรรมการประเมินฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งให้เลขาธิการ สกสค. ส่งผลการปฏิบัติงานเพื่อเข้ารับการประเมินอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ซึ่งโดยหลักการผู้เข้ารับการประเมินจะต้องส่งผลการปฏิบัติงานให้คณะกรรมการประเมินภายใน 15 วันหลังจากได้รับหนังสือแจ้ง แต่จนถึงขณะนี้นายธนพรก็ยังไม่ได้ส่งผลการปฏิบัติงานมาให้คณะกรรมการประเมินฯ ดังนั้นหากครบกำหนดแล้ว ยังไม่สามารถประเมินผลงานเลขาธิการสกสค.ได้ ก็ต้องเสนอให้ที่ประชุม สกสค.พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
“สำหรับกรณีที่นายธนพร ร้องขอความเป็นธรรมจากนายกฯนั้น ถือเป็นสิทธิ สามารถทำได้ หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนการที่นายธนพร ยังไม่ส่งผลงาน ก็กระทบกับการประเมิน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่วนจะมีผลให้ต้องหลุดจากตำแหน่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบอร์ด สกสค.คณะกรรมการประเมินดำเนินการทุกอย่างตามมติบอร์ดสกสค.”นายบัณฑิตย์กล่าว