เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่วิทยาลัยเทคนิค (วท.)ชลบุรี จ.ชลบุรี น.ส.ตรีนุช เทียนทองรมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management)หรือCVM ทั้ง 25 แห่งอย่างเป็นทางการ พร้อมร่วมพิธีรับมอบใบประกาศการรับรองเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน(Certification of Maintenance Training Organization Approval : AMTO) ของวิทยาลัยเทคนิคถลางและวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทพนัสแอสเซมบลีย์ จำกัดและ บริษัทเอ เอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) โดยมีนายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการน.ส.อรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรมว.ศึกษาธิการนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) ร่วมพิธี
ทั้งนี้ น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ศูนย์ CVM เป็นศูนย์ที่จัดตั้งเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลิตกำลังคนให้ตรงกับงานตรงกับความต้องการของภาคธุรกิจ ซึ่งจะมีความเข้มข้นมากกว่า excellent center ซึ่งจะมีการจัดกลุ่มอุตสาหกรรมเป็น6กลุ่มหลัก คือกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ขนส่งและการบิน กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติดิจิทัล และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมเกษตรอาหาร กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อร่วมกันสร้างคน ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจ โดยจะร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดทวิภาคีจัดทำหลักสูตรพัฒนาครูให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติงานในสถานประกอบการ ซึ่งศูนย์CVM จะสามารถตอบโจทย์สังคมให้เห็นว่าอาชีวศึกษาเป็นการเรียนที่จะผลิตเยาวชนให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศโดยใช้ระยะเวลาไม่นาน แต่สามารถประกอบอาชีพได้
“ ดิฉันได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาระดับอาชีวศึกษาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการศึกษาที่ทำให้เยาวชนและประชาชนของประเทศมีความรู้และทักษะอาชีพ ในการที่จะนำไปสู่การมีงานทำ มีรายได้ ทั้งในรูปแบบของการจ้างแรงงาน หรือการเป็นผู้ประกอบการ ทุกวันนี้นักศึกษาอาชีวะหลายรายมีศักยภาพสูง บางคนมีรายได้เริ่มต้นที่5-6 หมื่นบาท ได้ แล้วทำไมเราไม่ออกแบบการเรียนอาชีวศึกษาให้สามารถผลิตเด็กอาชีวะทุกคนได้ จึงเป็นที่มาของการเริ่มต้นศูนย์ CVM 25 แห่ง ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ.ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และนับเป็นภารกิจสำคัญของสอศ.ในการนำเอายุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศไทยมาเป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และรองรับการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม 4.0 “ นางสาวตรีนุช กล่าวและว่า ศูนย์ CVM ทั้ง 25 แห่ง จะเป็นต้นแบบในการจัดการอาชีวศึกษาในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ให้สามารถผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะสูงและมีคุณภาพ สอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่ สร้างแรงงานที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและมีจำนวนที่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ
ด้าน ดร.สุเทพ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดเป้าหมายของประเทศที่มุ่งเน้นการผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าและขับเคลื่อนกลุ่มคลัสเตอร์และอุตสาหกรรมรายสาขาให้เกิดความเข้มแข็ง รวมทั้งสร้างกรอบการพัฒนาบุคลากรของประเทศ ให้มีความพร้อมตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมโดยแท้จริง รวมถึงการเตรียมความพร้อมกำลังคนให้ตรงกับความต้องการแรงงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งน.ส.ตรีนุช มีนโยบายให้ สอศ.มุ่งผลิตและพัฒนากำลังคน โดยการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) กรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) รวมถึงมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สอศ.จึงได้ขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ. โดยประกาศจัดตั้งศูนย์CVM จำนวน 25 แห่ง ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยแต่ละศูนย์จะมีจุดเน้นและความเป็นเลิศที่แตกต่างกันตามกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งหนึ่งในภารกิจของศูนย์ CVM คือ การกำหนดยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาในศูนย์ฯร่วมกับหุ้นส่วนความร่วมมือ ภาคีเครือข่าย หน่วยงานทุกภาคส่วน ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันนี้เพื่อเป็นการนำเสนอกรอบแนวคิดการขับเคลื่อนศูนย์CVM การเชื่อมโยงด้าน Demand และด้าน Supply เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ พร้อมรับฟังนโยบายจาก รมว.ศึกษาธิการเพื่อไปสู่การยกระดับคุณภาพการจัดการอาชีวศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ภายใต้การขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center)ต่อไป
สำหรับ ศูนย์ CVM จำนวน 25 แห่ง มีดังนี้ 1. สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล วิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทรา 2. สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล (สาขางานเทคนิคซ่อมตัวถังและสีรถยนต์) วิทยาลัยการอาชีพไชยา 3. สาขาวิชาเทคนิคการผลิต วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม 4. สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคนครนายก 5. สาขาวิชาการท่องเที่ยว วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย 6.สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต 7. สาขาวิชาการจัดประชุมและนิทรรศการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น 8. สาขาวิชาพืชศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี 9. สาขาวิชาสัตวศาสตร์วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสงขลา 10. สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา 11. สาขาวิชาเมคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ12. สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี 13. สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกลเรือ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือนครศรีธรรมราช 14. สาขาวิชาช่างอากาศยาน วิทยาลัยเทคนิคถลาง 15.สาขาวิชาเทคนิคควบคุมและซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางราง วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี 16. สาขาวิชาปิโตรเคมี วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด 17. สาขาอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ 18. สาขาเทคนิคพลังงานทดแทน วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ 19. สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี 20. สาขาวิชาช่างก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว 21. สาขาเครื่องประดับอัญมณี กาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง 22. สาขาวิชาธุรกิจค้าปลีก วิทยาลัยพณิชยการบางนา 23. สาขาวิชาเทคนิคเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม 24. สาขาเทคนิคโลหะ วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ และ 25. สาขาวิชาเทคโนโลยีความงามวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ
จากนั้น รมว.ศธ.และคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการการขับเคลื่อนศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา และ EEC เยี่ยมชมการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยเทคนิคชลบุรี การขับเคลื่อนศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาสาขาวิชาเทคนิคควบคุมและซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางราง ศูนย์ซ่อม CNC ของ วท.ชลบุรี