เมื่อเวลา 7.30 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว. ศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาเพื่อติดตามความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2 และการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)ที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทรสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดย น.ส.ตรีนุช กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียน ว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียน ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการ เชื่อว่าการเรียนที่ดีที่สุดคือการเรียนOnsite และโควิดก็คงต้องเป็นสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญต่อไป การมาตรวจเยี่ยมโรงเรียนวันนี้ก็มาที่โรงเรียนขนาดใหญ่ของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่เคยมีการแพร่ระบาดรุนแรง โดยโรงเรียนได้จัดให้นักเรียนสลับกันมาเรียนตามรูปแบบที่ทางกระทรวงศึกษาธิการวางระบบไว้ ขณะที่ครู และบุคลากรทางการศึกษา ของโรงเรียนก็ได้รับวัคซีนแล้วเกือบ 100% รวมถึงทุกคนในโรงเรียนที่อยู่รอบตัวนักเรียนก็ได้รับวัคซีนแล้ว ส่วนนักเรียนก็ฉีดวัคซีนเข็ม 2 กันแล้ว ที่สำคัญได้เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างเข้มงวด การรักษาระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ รวมถึงการเตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อมด้วย หากมีเด็กหรือคนในโรงเรียนมีอาการก็ต้องมีมาตรการดูแล ทั้งนี้เพื่อให้การเปิดโรงเรียนอยู่ภายใต้ความปลอดภัยที่สุด
ด้าน ดร.อัมพร กล่าวว่า จากการรับรายงานตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม โรงเรียนได้มีการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนทุกโรงเรียนทั่วประเทศ โดยเป็นการเปิดแบบOnsite ประมาณ 20,000 กว่าโรง และมีโรงเรียนบางส่วนที่ทางจังหวัดอนุมัติให้เปิดแบบOnsite ในวันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ขณะเดียวกันโรงเรียนก็ได้เตรียมความพร้อมโดยการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและนักเรียนว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไร ทั้งระหว่างการเดินทางมาโรงเรียน และเมื่อถึงโรงเรียนแล้วต้องทำอย่างไร โดยให้ยึดตามมาตรการการปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า สำหรับวันนี้ได้มาที่โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย เพื่อดูว่าที่ออกแบบบไว้ปฏิบัติไว้เมื่อปฏิบัติจริงเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือ ครูและนักเรียนต้องปลอดภัย เพราะฉะนั้นถ้าปฏิบัติได้อย่างเข้มข้นและปลอดภัยเราก็จะสามารถเปิดเทอมแบบOnsiteได้อย่างทั่วถึงกันทั่วประเทศต่อไป อย่างไรก็ตามวันนี้โรงเรียนที่เปิดOnsiteเต็มรูปแบบ จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 25 คน แต่สำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่ยังต้องใช้รูปแบบผสมผสาน เพราะถ้าเปิดOnsite 100% จะทำให้นักเรียนเกินห้องละ 25 คน ดังนั้นเด็กยังคงต้องสลับกันมาเรียน โดยอาจจะสลับเป็นเลขคู่ เลขคี่ หรือสลับชั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของโรงเรียน ตอนนี้เราไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องเปิดOnsite 100%เท่าไหร่ เพียงแต่ต้องการให้เปิดมากที่สุดและปลอดภัยที่สุด
“เรื่องการฉีดวัคซีนเฉพาะพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้ม มีข้อกำหนดว่าครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับวัคซีน 85% ซึ่งเราเข้มงวดกับมาตรการนี้มากหากครูและบุคลากรฉีดไม่ถึง 85% ไม่อนุญาตให้เปิดแน่นอน ส่วนของนักเรียนไม่มีเงื่อนไขว่าต้องฉีดก่อนถึงจะมาเรียนที่โรงเรียนได้ แต่เราก็จะรณรงค์ให้นักเรียนและผู้ปกครองฉีดเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด ดังนั้นขอย้ำว่าในส่วนของนักเรียนที่มาโรงเรียน ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน และถึงแม้เด็กจะฉีดวัคซีนแล้วแต่ถ้าผู้ปกครองเห็นว่ายังไม่ปลอดภัยก็อนุโลมให้เด็กเรียนด้วยวิธีอื่นได้ เพราะฉะนั้นกรณีของนักเรียนเราเน้นที่ความสมัครใจและความปลอดภัยเป็นหลัก”ดร.อัมพรกล่าวและว่า สำหรับการเรียนการสอนในช่วง 2 สัปดาห์แรกได้เน้นไปแล้วว่าจะไม่เน้นเรื่องวิชาการ แต่ให้เน้นการเรียนรู้ว่าจะอยู่กับโควิด-19ให้ปลอดภัยได้อย่างไร ซึ่งจะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพได้มากกว่า และที่สำคัญหลังจากนี้ถ้ามีนักเรียนเจ็บป่วยหรือติดโควิดทุกเราก็มีแผนเผชิญเหตุรองรับและพร้อมปิดห้องเรียนทันที
นายภูธเนศ อุทัยรัตน์ นักเรียน ชั้น ม.4 โรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย กล่าวว่า รู้สึกทั้งตื่นเต้นและกังวล เพราะต้องปรับตัว เนื่องจากทิ้งการเรียนในห้องเรียนมาค่อนข้างนาน และการมาโรงเรียนเทอมนี้เราต้องมีความระมัดระวังและมีความรอบคอบในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่ถ้าเรามีสติตลอดเวลาเราก็ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้สลับ ให้นักเรียนมาเรียนเป็นกลุ่มAและกลุ่มB
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย มีนักเรียนทั้งหมด 3,034 คน มีครู 157คน