เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2564 ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เปิดเผยถึงความพร้อมการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า การเปิดเรียนคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ต้องเปิดวันที่ 1 พ.ย.นี้แน่นอน แต่วิธีการเรียนการสอน ก็ยังยืนยันหลักการเดิม ใน 5 รูปแบบ คือ On-site ,On-air, On-demand, On-line,และOn-hand แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายของนางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ก็ต้องการให้เปิดเรียนแบบ On-site คือ อยากให้นักเรียนมาเรียนที่โรงเรียนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความพร้อมและความปลอดภัย
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ความพร้อมและความปลอดภัยที่กล่าวถึงก็คือ เราจะแบ่งโรงเรียนออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มมัธยมศึกษาตั้งแต่ ม.1-ม.6 และ กลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี คือ ชั้นอนุบาล-ชั้นประถมศึกษา ตรงจุดนี้ก็ประเมินความพร้อมออกเป็น 2 กลุ่ม เช่นกัน คือกลุ่มมัธยม เราจะเอาฐานการฉีดวัคซีนมาเป็นฐานในการเปิดเรียน On-site หรือไม่เปิดเรียน On-site อย่างไร การฉีดวัคซีนทั้งครูและนักเรียนจะต้องอยู่ในสัดส่วนตามเกณฑ์ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.) กำหนดขณะเดียวกันสถานศึกษาเองก็ต้องคำนึงด้วยว่าเราอยู่ในพื้นที่ระบาดหรือไม่ โรงเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือเปล่า ถ้าฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด พื้นที่ไม่เสี่ยง โรงเรียนมีความพร้อมและมีแผนเผชิญเหตุ สรุปคือ 1.ฉีดวัคซีนเข้าเกณฑ์ 2.โรงเรียนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง 3.โรงเรียนมีความพร้อม และ 4.มีแผนเผชิญเหตุ ถ้ามีครบทั้ง 4 ข้อนี้ โรงเรียนก็เปิด On-site ได้ เพราะการเปิดเรียนครั้งนี้เราอยากให้เปิด On-site ได้มากที่สุดแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย
“ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะอยู่ในพื้นที่สีแดงเข็ม เช่น อยู่ในตำบลที่ไม่มีการแพร่ระบาดและได้รับการประเมินสถานการณ์ตามเกณฑ์ที่กำหนด ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเห็นชอบก็ให้เปิด On-site ได้ ดังนั้นการเปิดเรียน On-site ก็จะไม่ได้เปิดพร้อมกันทั้งหมด การทำงานครั้งนี้เราทำงานร่วมกันทั้ง3 ฝ่ายคือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ต้องร่วมมือกันในการประเมินสถานการณ์ และวันนี้กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่ามีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้นักเรียนครบทั้งสองเข็มตามที่กำหนด และตอนนี้ ผมก็ได้มอบนโยบายให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ทุกเขตพื้นที่ฯไปดูบริบทของโรงเรียนว่าโรงเรียนไหนเข้าเกณฑ์ที่จะสามารถเปิดเรียน On-site ได้ เพื่อจะได้ทำแผนส่งไปให้ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ” ดร.อัมพร กล่าวและว่า ส่วนเด็กชั้นอนุบาล-ประถมศึกษา จะดูเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ปกครองที่อยู่ในชุมชนเป็นหลัก เพราะคุณหมอทางกุมารแพทย์ บอกว่าเด็กอนุบาลมีโอกาสที่จะติดเชื้อจากผู้ปกครองดังนั้นจะดูผู้ปกครองเป็นเกณฑ์เพื่อบริหารความเสี่ยงด้วย