ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดเรียนระดับประถมศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดย ศธ.อยู่ระหว่างเร่งให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ85 ซึ่งเท่าที่ทราบขณะนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 80 และถ้าผู้ปกครองที่ดูแลเด็กได้รับวัคซีนครบทุกคน เท่ากับเด็กจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ไม่มีผลกระทบหรือความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ตามไปด้วย
“แนวคิดของทางราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยเห็นควรให้เปิดเรียนในระดับประถมศึกษาแต่ต้องมีมาตรการดูแลที่เข้มข้น ขณะที่วัคซีนถือว่ามีความจำเป็นใช้ในการเสริมเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้เพราะเด็กมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง และหากผู้ปกครองซึ่งดูแลเด็กได้รับการฉีดวัคซีนเท่ากับว่า เด็กจะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยง อีกทั้งหากสถานการณ์ภายในประเทศดีขึ้นตามลำดับ ก็อาจเป็นไปได้ว่า จะสามารถเปิดเรียนระดับประถมศึกษาได้ตามปกติ และถ้ามีโอกาสฉีดวัคซีนเชื้อตายอย่าง ซิโนแวค หรือซิโนฟาร์มก็น่าจะเป็นผลดี ยืนยันว่า วัคซีนไม่ใช่คำตอบสุดท้ายแต่เน้นในเรื่องการดูแลตัวเองและครอบครัว เพื่อให้เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย”ปลัดศธ.กล่าวและว่า ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุป อยู่ระหว่างวางแผน ว่าจะทำอย่างไรถึงจะสามารถเปิดเรียนได้อย่างปกติ โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด เพราะในพื้นที่สีส้ม 11 จังหวัด และพื้นที่สีแดง 37 จังหวัดสามารถเปิดเรียนได้ แต่ต้องทำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)และได้รับการอนุญาตจาก ศบค.จังหวัด