เมื่อวันที่ 16 .. ..ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมทางไกลมอบนโยบายการตรวจติดตามเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ว่า เราอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มาระยะหนึ่งแล้ว และต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกระยะหนึ่ง การใช้ชีวิตวิถีใหม่แบบNew Normal และการเรียนรู้ต่างๆยังต้องดำเนินต่อไป ซึ่งการศึกษาเป็นความคาดหวังของสังคม และเป็นหน้าที่ของศธ. ที่ต้องทำให้ลูก หลานของเราเข้าถึงการเรียนรู้ได้ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ ซึ่งการตรวจติดตามเพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษานี้มีผู้รับผิดชอบหลัก 3 กลุ่มประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการ ศธ., ประธานกรรมการกลุ่มพื้นที่การศึกษาประจำเขตตรวจราชการ (Cluster) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และที่ปรึกษาอาชีวศึกษา รวม 30 กว่าคน โดยผู้รับผิดชอบหลักนี้ถือเป็นข้อต่อสำคัญในการเชื่อมนโยบาย ศธ.กับเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา โดยจะนำผลการตรวจติดตามสื่อสารกลับมาที่ส่วนกลาง เพื่อนำข้อมูลสู่การแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

การลงพื้นที่ตรวจติดตามฯ ไม่ใช่การตรวจสอบ ต้องเป็นแบบกัลยาณมิตร ไม่สร้างภาระงานให้โรงเรียน เป็นการสนับสนุน หรือ SUPPORTER เน้นข้อเท็จจริงเชิงคุณภาพครอบคลุมทุกมิติ ลดภาระงานที่ไม่จำเป็น ต้องเรียบง่ายกระชับตรงประเด็น ซึ่งผู้รับผิดชอบหลัก 3 กลุ่มจะดูการจัดการศึกษาของทุกสังกัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ทั้งการศึกษาสายสามัญศึกษา และอาชีวศึกษา ทั้งสถานศึกษาของรัฐและเอกชน โดยค้นหาปัจจัยที่สำคัญในระดับพื้นที่ สถานศึกษา ที่สะท้อนสภาพปัจจุบันและปัญหา เพื่อนำสู่การสนับสนุนส่งเสริม รู้ปัญหาได้เร็วขึ้นและแก้ปัญหาได้ทันที อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาศธ.ได้ดำเนินการตามนโยบายต่างๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสอน 5 รูปแบบ การลดภาระนักเรียน ลดภาระครู ลดภาระผู้ปกครอง แต่ก็ยอมรับว่าผู้ปฏิบัติยังมีความกังวลสงสัยในนโยบายบางอย่าง ส่งผลให้การปฏิบัติตามนโยบายไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้น ขอให้คณะผู้ตรวจติดตามฯได้ดูว่าการปฏิบัติตามนโยบายต่างๆ มีปัญหา หรือ มีอุปสรรคอะไรบ้าง เพราะแต่ละโรงเรียน แต่ละพื้นที่ก็มีบริบทที่แตกต่างกัน ขณะที่นโยบายออกแบบกลางๆ และกำหนดแนวปฏิบัติไว้กว้างๆ เมื่อลงสู่การปฏิบัติอาจแตกต่างได้ จึงขอให้ทุกท่านช่วยสื่อสารสร้างความเข้าใจในนโยบายและหากพบปัญหาอุปสรรคอะไร ก็สื่อสารกลับมาที่ส่วนกลาง เพื่อปรับนโยบายและทิศทางการดำเนินงานเพื่อแก้ไขให้เหมาะสมสามารถปฏิบัติในพื้นที่ได้จริงรมว.ศธ. กล่าวและว่า หลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ตรวจติดตามด้วยตนเองในบางพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ขอกำชับให้ผู้รับผิดชอบคำนึงถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

..ตรีนุช กล่าวด้วยว่า เราต้องแบ่งเบาภาระสถานศึกษา ให้ทำงานด้วยความอุ่นใจเช่น เรื่องการฉีดวัคซีนให้นักเรียน นักศึกษา อายุ12-18 ปี ที่ต้องดำเนินการตามปฏิทินการฉีดวัคซีนและช่วยสนับสนุนแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ รวมถึงโครงการ Sandbox safety zone in school (sss) เปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควิด-19 ด้วยการจำกัด บุคคลเข้าออกโรงเรียนอย่างชัดเจน และจะมีการคัดกรอง โดยใช้วิธีRapid Antigen Test เน้นการ ทำกิจกรรมในรูปแบบ Bubble and Seal และการเปิดเรียนที่สถานศึกษา หรือการดูแลนักเรียนที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งต่างๆเหลานี้ ต้องประสานงานกับสถานศึกษาและสาธารณสุขจังหวัดอย่างใกล้ชิด ตลอดจนสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน.

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments