เมื่อวันที่ 1กันยายน 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการโอนเงินงบประมาณตามโครงการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งสายสามัญศึกษาและสายอาชีพ ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน รวมประมาณ 10.8 ล้านคน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน เป็นเงินกว่า 21,600 ล้านบาทไปยังหน่วยงานในสังกัดและนอกสังกัด ศธ.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนักเรียน นักศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สามารถรับเงินคนละ 2,000 บาท ได้ทั้งในรูปแบบการรับเงินโอนเข้าบัญชี หรือ รับเงินสดที่สถานศึกษา โดยรับเงินได้ตั้งแต่วันที่ 1-7 กันยายน 2564ส่วนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)จะได้รับเงิน วันที่ 6-10 กันยายน 2564
“สถานศึกษาทุกแห่ง เมื่อได้รับการจัดสรรเงินตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาไปแล้วขอให้เร่งดำเนินการโอนเงินหรือจ่ายเงินสดให้ถึงมือผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษา เต็มจำนวนโดยเร็ว ห้ามสถานศึกษาหักเงินนี้ เพราะรัฐบาล ต้องการให้เงินนี้เป็นการชดเชยค่าใช้จ่ายในการเรียนที่เพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 ที่ผู้ปกครองสามารถนำไปใช้ตามความจำเป็น เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ เป็นต้นทั้งนี้ นักเรียน สังกัด สพฐ.สามารถตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่เว็บไซต์ https://student.edudev.in.th นักเรียน สังกัด สช.ตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่ https://opec.go.th และ นักศึกษา สังกัด สอศ. ตรวจสอบสิทธิ์ ได้ที่ https://www.vec.go.thสำหรับ นักศึกษา กศน.ตรวจสอบสิทธิ์ที่สำนักงาน กศน.จังหวัด/อำเภอ และศูนย์การเรียนรู้ชุมชน สำหรับกรณีไม่ได้รับเงินในช่วงเวลาที่กำหนด สามารถติดตามสอบถามได้ที่ สถานศึกษาต้นสังกัด หรือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือส่วนราชการต้นสังกัด หรือโทร. 1579 , 1693 ซึ่งอาจจะมีนักเรียนบางคนได้รับเงินล่าช้า เพราะมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น นักเรียนย้ายโรงเรียนหลังวันที่ 25 มิถุนายน 2564 โรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร หรือ เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามยืนยันว่านักเรียน นักศึกษา ทุกคนที่มีสิทธิ์ต้องได้รับเงินเยียวยาเต็มจำนวน” รมว.ศธ. กล่าว
น.ส.ตรีนุช กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองและนักศึกษา ระดับปริญญาตรี ที่ศึกษาอยู่ในสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสอศ.จำนวน 23 แห่ง ร้องเรียนว่าไม่ได้รับการพิจารณาให้ได้รับเงินเยียวยาดังกล่าวนั้น ที่ผ่านมา สอศ.ได้จัดทำตัวเลขข้อมูลนักศึกษา ในสังกัด สอศ.ที่จะได้รับการเยียวยาครอบคลุมทุกระดับ และเสนอไปยังสำนัดงานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ พิจารณา แต่เมื่อสภาพัฒน์ฯ พิจารณาและส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับตัดกลุ่มนักศึกษาระดับปริญญาตรีของสอศ.ออกไป เมื่อตนทราบเรื่องจึงได้หารือกับ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) และ ได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ.ประสานไปยังสภาพัฒน์ เพื่อพิจารณาทบทวนและขยายการเยียวยาให้ถึงกลุ่มนักศึกษาปริญญาตรีแล้ว ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อสภาพัฒน์พิจารณาแล้วก็ต้องเสนอให้ครม.ให้ความเห็นชอบ และหากผ่าน ครม.แล้ว สอศ.จะเร่งโอนงบประมาณให้แก่สถาบันการอาชีวศึกษาทันที