เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2564 ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. และผู้บริหาร อว. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ U2T ที่ ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยบูรพา ที่รับผิดชอบดำเนินโครงการในพื้นที่ 104 ตำบล ของ 7 จังหวัดภาคตะวันออก โดยปัจจุบันได้มีการจ้างงานคนในพื้นที่ไปแล้วกว่า 2,000 ตำแหน่ง หลังการตรวจเยี่ยม ได้มีนักศึกษาที่ได้รับการจ้างงานโครงการ U2T ใน ตำบลหนองตำลึง ชื่อนายพีรณัฐ อินทรารักษ์สกุล จากวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มายื่นหนังสือถึง ศ.ดร.เอนก โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า “เคยสมัครงานราชการหรือบริษัท แต่ไม่รับคนพิการ ก่อนมาสมัครโครงการ U2T และได้รับโอกาสทำงาน อยากขอบคุณ ศ.ดร.เอนก ที่ให้โอกาสเรียนรู้การทำงานเพื่อพัฒนาศักยภาพและอยากให้จัดหางานให้หลังหมดสัญญา เพราะหางานได้ยากเนื่องจากเหตุผลที่เป็นคนหูหนวก
รมว.อว.กล่าวต่อไปว่า โครงการ U2T เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นโครงการที่ทำให้คน 6 หมื่นคนมีงานทำในช่วงวิกฤติโควิด มีมหาวิทยาลัย 76 แห่งทั่วประเทศ เข้ามาร่วมในโครงการเพื่อทำงานในพื้นที่ 3,000 ตำบล และตอนนี้ U2T ได้เดินมาถึงครึ่งทางแล้ว ที่สำคัญ U2T เป็นทีมแนวหน้าของ อว. ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ลงพื้นที่ทำงานในชุมชนโดยปรับเพิ่มการทำงานให้มาช่วยสนับสนุนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด เช่น การรณรงค์ป้องกันโควิดในชุมชน สนับสนุนการคัดกรอง ตรวจเบื้องต้นโดยวิธีหาแอนติเจน (ATK) ฉีดวัคซีน รวมทั้งทำกลไกกักตัวที่บ้านและชุมชน ขอชื่นชม ม.บูรพา ที่ทุ่มเทสรรพกำลังทุกด้านในการดำเนินในโครงการนี้เพื่อช่วยท้องถิ่น
“ผมรู้สึกดีใจที่วันนี้ได้พบกับผู้พิการทางการได้ยิน ว่า U2T ได้ช่วยให้เขามีงานทำ จากเดิมไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องอยากให้มีการจ้างงานในโครงการนี้ต่อ แต่รัฐบาลมีความรับผิดชอบในหลายทาง จึงอยากให้ทุกคนโดยเฉพาะสื่อมวลชนหากเห็นว่าโครงการนี้ดี มีประโยชน์ ก็อยากให้ช่วยสนับสนุน ยืนยันว่า อว. ยังทำงานอย่างหนัก พร้อมเป็นกองหนุนที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณ และร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปให้ได้ โควิดแม้จะเป็นวิกฤติ เป็นปัญหา แต่อีกด้านก็เป็นโอกาสให้ อว. ได้พัฒนาความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และยังทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลฝากความปรารถนาดี ความห่วงใยมาให้ทุกคน และรัฐบาลยังทำงานอย่างหนัก แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ้างเป็นธรรมดา ซึ่งเรื่องไหนมีความถูกต้อง ก็พร้อมรับไปแก้ไขปรับปรุงทันที เชื่อว่า สถานการณ์โควิดในไทยกำลังเริ่มดีขึ้น และตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มน้อยกว่าตัวเลขคนหายป่วยกลับบ้านติดต่อมาหลายวัน แสดงว่าล็อคดาวน์ได้ผล และยังมีการระดมฉีดวัคซีนกันอย่างเต็มที่อีกด้วย เราต้องมีความหวัง รักษาตัวเองไว้ให้ดี เพื่อจะได้ไปชื่นชมกับชัยชนะหลังโควิด