เมื่อเวลา 15.00 น. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.)แถลงข่าวร่วมกับ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.)และดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)ว่าศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.)ไฟเขียวให้ ศธ.เลื่อนเปิดเทอม 1/2564 จากวันที่ 1 มิ.ย.ออกไปอีกเป็นวันที่ 14 มิ.ย.ตามที่ ศธ.เสนอเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ทั่วประเทศ มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไป เพื่อความปลอดภัยและระวังป้องกันนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด 19 และเพื่อให้มีระยะเวลารับการฉีดวัคซีนของครูและบุคลากรทางการศึกษา และรองรับการย้ายสถานศึกษาของนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า การเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ดังกล่าวหากมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดง และพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม ประสงค์จะดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2546 เป็นต้นไป ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้น ดำเนินการประเมินความพร้อมตามระบบ Thai Stop COVID Plus ของกระทรวงสาธารณสุข (ศธ.) ที่มี 44 ข้อโดยต้องผ่านทุกข้อ และต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือ ศบค.จังหวัด เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้นสามารถจัดการเรียนการสอนได้ก่อนวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ได้ ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด ได้แก่กรุงเทพฯ ,นนทบุรี,ปทุมธานี,สมุทรปราการ หากต้องการเปิดสอนก่อนสามารถจัดการเรียนได้ในรูปแบบการสอนออนไลน์ และ ออนแอร์เท่านั้น ทั้งนี้ถึงแม้โรงเรียนจะเปิดไม่พร้อมกัน แต่ต้องปิดเทอมพร้อมกันในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 เพื่อไม่กระทบกับปฏิทินการสอบต่างๆ
“ศบค.ได้ผ่อนคลายมาตรการการใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามระดับสถานการณ์ของพื้นที่ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ , นนทบุรี ,ปทุมธานี และสมุทรปราการ ห้ามใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ยังเปิดเรียนที่โรงเรียนไม่ได้สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดง มี 17 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ตาก, นครปฐม, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ประจวบคีรีขันธ์, พระนครศรีอยุธยา, เพชรบุรี, ยะลา, ระนอง, ระยอง, ราชบุรี, สมุทรสาคร, สงขลา และ สุราษฎร์ธานี ให้ใช้อาคารสถานที่ฯ เปิดเรียนได้ โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ส่วนที่เหลือ 56 จังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม เปิดเรียนได้ตามมาตรการ ศบค. อย่างไรก็ตามขอให้สถานศึกษาติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พิจารณารูปแบบการเรียนการสอน โดยยึดหลักความปลอดภัยสูงสุดของเด็ก ครู ผู้ปกครองเป็นที่ตั้ง นักเรียนทุกคนต้องไม่พลาดโอกาสในการเรียนรู้ ไม่บังคับว่าเด็กทุกคนในโรงเรียนเดียวกันต้องเรียนเหมือนกัน การตัดสินใจใช้รูปแบบใดในการจัดการเรียนการสอน รวมถึงการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ และที่สำคัญต้องขออนุญาต ศบค.จังหวัดให้ถูกต้อง และปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว