วันนี้( 25 กุมภาพันธ์ 2564) นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง กรณีที่ตนได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) เมื่อปี2562 ซึ่งศาลปกครองกลางได้ตัดสิน ให้เพิกถอนมติและคำสั่งการแต่งตั้งนายณรงค์ แผ้วพลสง เป็นเลขาธิการ สกสค. ต่อมาทั้งสองฝ่ายได้ยื่นอุทธรณ์ในหลายประเด็น นั้น วันนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยสรุปว่า คำพิพากษาของศาลปกครองกลางได้เยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีแล้ว ดังนั้นไม่ว่า ศาลปกครองสูงสุดจะวินิจฉัยคำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีในประเด็นย่อย ดังกล่าวเป็นประการใดก็ตาม ย่อมไม่มีผลทำให้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเปลี่ยนแปลงได้ จึงเห็นได้ว่า คำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีไม่อาจทำให้ผลของคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นตนเปลี่ยนไป และไม่ทำให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยที่แตกต่างไป ดังนั้นยืนยันให้ใช้คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ว่า กระบวนการสรรหาดังกล่าว ดำเนินการโดยชอบ แต่ไม่ชอบที่คุณสมบัติบางประการ และให้เพิกถอนเฉพาะมติและคำสั่งแต่งตั้งนายณรงค์
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้ตนจะมอบให้ทีมกฎหมายไปดูรายละเอียด เพื่อดำเนินคดีอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กับผู้เกี่ยวข้องกับกรรมการสรรหาเลขาธิการ สกสค.ดังกล่าว ซึ่งบางคนแม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้วก็มีผลย้อนหลังได้ ทั้งนี้ เมื่อศาลปกครองกลางมีคำสั่งและอยู่ระหว่างการอุทธรณ์นั้น โดยหลักการก็ไม่ควรดำเนินการสรรหาเลขาธิการ สกสค.ได้ แต่ต้องนำรายชื่อ ตน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 2 รายชื่อที่เข้ารับการพิจารณาของคณะกรรมการเมื่อปี 2562 เข้าที่ประชุมคณะกรรมการสกสค.ก่อน แต่กลับข้ามไปเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ และได้นายธนพร สมศรี มาเป็นเลขาธิการ สกสค. ดังนั้นตนจึงให้ทีมกฎหมายไปดู หากเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก็จะฟ้องอาญากับผู้เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีผลให้นายธนพร หลุดจากตำแหน่งหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ แต่คนที่ดำเนินการให้เกิดการสรรหาใหม่ โดยที่ไม่ทำของเดิมให้สะเด็ดน้ำก่อนก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งการสรรหานายธนพร มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน
“การดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่การไล่บี้ แต่บังเอิญว่าศาลนัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พอดี ผมเองไม่ได้คิดเรื่องจะได้คืนสิทธิหรือไม่ แต่ต้องดำเนินกระบวนการจนสิ้นสุด เพราะกระบวนการเดิมตั้งแต่การรับสมัคร การสรรหา ชอบมาตลอด ไม่ชอบเฉพาะคุณสมบัติของนายณรงค์ เท่ากับว่า คุณสมบัติของผมชอบทุกอย่าง แต่เป็นเรื่องของการลงมติไม่ชอบ ดังนั้นที่ถูกต้องบอร์ดสกสค. ต้องประชุมใหม่ เพื่อเพิกถอนกระบวนการสรรหานายธนพร และมาลงมติในส่วนของผม ให้ถูกต้อง ซึ่งผมจะนำคำพิพากษา รายงานให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่รับทราบ เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป”นายอรรถพลกล่าว