เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2564 ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.)ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 6 ปี 16 เดือน ในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ทำให้มีผลหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทันที ว่า ส่วนตัวมองว่าไม่กระทบกับการทำงานของศธ.เพราะการทำงาน ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนงาน ทั้งงานประจำและงานตามนโยบาย โดยเฉพาะการบูรณาการด้านการศึกษาที่ขณะนี้แต่ละจังหวัดทำแผนบูรณาการเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูล เท่าที่ฟังผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่มีความเข้าใจและพอใจ เพราะมีโอกาสที่จะมีโรงเรียนคุณภาพเพิ่มขึ้น เพราะเป็นการกระจายทรัพยากรลงไปได้ทั่วถึง
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ถ้า รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ จะเปลี่ยนนโยบาย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เราเป็นข้าราชการ มีหน้าที่นำนโยบายสู่การปฏิบัติ จากนี้จะรวบรวมแผนการดำเนินการปี 2564 และ2565 ว่ามีเรื่องใดบ้าง ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ พิจารณาว่าอยากเสริมแต่งในเรื่องใดบ้าง หรือมีนโยบายใหม่ ๆ ก็ต้องไปออกแบบเพื่อนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ตรงนี้ถือเป็นเรื่องปกติของข้าราชการ
ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ในฐานะผู้ปฏิบัติก็ต้องขับเคลื่อนภารกิจต่อไป อะไรที่เป็นนโยบายรัฐบาลก็ต้องเดินหน้า อะไรที่เป็นนโยบายของรัฐมนตรีก็ต้องรอฟังที่รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ ไม่มีอะไรต้องกังวล และไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐมนตรีก็คิดว่าทุกคนจะเห็นความสำคัญของการศึกษา ซึ่งสพฐ.ก็พร้อมจะปฏิบัติ
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า การปรับรัฐมนตรีไม่กระทบกับสภาการศึกษามากนัก เพราะการทำงานของสภาการศึกษาเป็นการทำงานเชิงระบบมากกว่า อีกอย่างสภาการศึกษาถือเป็นคลังความคิด มีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถมากมาย ซึ่งการประชุมแต่ละครั้งก็ใช้คณะกรรมการเป็นตัวกำหนดแนวทางของการประชุม โดยรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่จะมาให้นโยบาย และบอร์ดก็ให้ความเห็นกลับมา เป็นการทำงานที่ผสมผสานกัน อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการปรับรัฐมนตรีก็ต้องมีบ้างในบางเรื่องที่ต้องรอฟังนโยบายจาก รัฐมนตรีคน.ใหม่ เพื่อดูว่ามีอะไรต้องปรับเปลี่ยนบ้างจากที่คิดและวางแผนไว้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นธรรมดาที่อาจจะมีอะไรบางอย่างไม่โดนใจทั้ง 100%
ด้าน ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) กล่าวว่า ทิศทางการขับเคลื่อนการอาชีวศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ชัดเจนและมาถูกทางอยู่แล้ว เพราะเป็นนโยบายที่สร้างคุณภาพให้กับการอาชีวศึกษาอย่างมาก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้เสนอแนวทางการพัฒนาอาชีวศึกษา ต่อที่ประชุมคณะกรรมการอาชีวศึกษา(บอร์ด กอศ.) ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วย และมองว่าการขับเคลื่อนและพัฒนาอาชีวศึกษาเพื่อสร้างคุณภาพให้สถานศึกษาเป็นศูนย์ความเป็นเลิศการอาชีวศึกษา (Excellent Center College) นั้นต้องเดินหน้าต่อไป
“สอศ.มีปรัชญาการทำงาน คือ สร้างคุณภาพ และผลิตผู้เรียนให้มีสมรรถนะตรงกับความต้องการของประเทศ สอศ.จะทำงานตามปรัชญานี้ และเชื่อว่า รมว.ศึกษาธิการ คนใหม่ จะสนับสนุนแนวทางนี้ด้วย อย่างไรก็ตามผมไม่กังวลในการทำงาน หาก รมว.ศึกษาธิการคนใหม่ มีนโยบายการทำงานใหม่ สอศ.ก็พร้อมจะปฏิบัติ”ดร.สุเทพ กล่าว