เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2564 ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับคณะกรรมการกองทุนเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปรับรูปแบบการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งกองทุนเทคโนโลยีฯได้รับงบประมาณจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ปีละประมาณ 10 ล้านบาท เน้นให้ทุนเรื่องการวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก แต่ในช่วงวิกฤต เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ แม้จะมีการปิดเรียนแต่การจัดการเรียนการสอนยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง ขณะที่การใช้โทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม หรือDLTV ไม่สามารถใช้ได้ทั่วถึงทุกโรงเรียน การเรียนออนไลน์ ยังไม่สามารถทำได้ครบทุกชั้น ดังนั้นในช่วงที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อยู่ระหว่างปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็ควรจะมีรูปแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม ตามเนื้อหาหลักสูตร จึงได้มอบหมายให้ทางกองทุนเทคโนโลยีฯ ไปวางแนวทางว่าจะปรับการใช้งบฯเพื่อแก้ปัญหาในช่วงนี้อย่างไร
“ผมได้มอบหมายให้กองทุนเทคโนโลยีฯ ไปหาแนวทางว่าจะมีวิธีและรูปแบบการเรียนการสอนใดบ้าง เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเกิดความต่อเนื่อง และให้ทุนกับทางสพฐ. เพื่อดำเนินการจัดทำ ทันทีที่หลักสูตรใหม่เสร็จเรียบร้อย เช่นจัดการเรียนการสอนผ่านคลิป แล้วเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์ เด็กสามารถจะหยิบมาดูเมื่อไรก็ได้ ขณะที่ครูซึ่งไม่สะดวกในการใช้เทคโนโลยีก็สามารถดึงข้อมูลของครูที่เก็บข้อมูลไว้ในคลาวด์มาสอนได้ โดยจะต้องทำหลายช่องทาง เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนเกิดความต่อเนื่อง” นายสุภัทร กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะอยู่จนถึงเมื่อไร ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้การจัดการศึกษาเกิดความต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นจึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับ เพราะแม้จะกลับมาเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ ก็ยังสามารถหยิบสื่อการเรียนดังกล่าวมาใช้ได้ตลอดเวลา