เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 1 ธันวาคม ที่โรงเรียนบดินทร์ สิงห์ สิงหเสนี เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) พร้อมคุณครูคณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครอง ได้เดินทางมายังโรงเรียนแต่เช้าเพื่อดูความเรียบร้อยที่บริเวณประตูใหญ่ของโรงเรียน โดยนักเรียนส่วนใหญ่ใส่ชุดนักเรียนปกติเดินทางเข้ามาโรงเรียน ก่อนที่โรงเรียนจะปิดประตูโรงเรียน 07.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 07.30 น. กลุ่มนักเรียน”บอดิน ไม่อินเผด็จการ”ประมาณ 20 คน ได้ใส่ชุดไปรเวทมาร่วมแสดงสัญลักษณ์ เดินถือป้ายข้อความระบุว่า “บังคับแต่งชุดนักเรียน คือ การละเมิดสิทธิของนักเรียน” “ยกเลิกกฏระเบียบล้าหลัง” “โรงเรียนนี้ไม่ให้นักเรียนขึ้นห้องเรียน” เดินเข้ามาภายในโรงเรียน ทางเจ้าหน้าที่จึงขอให้นักเรียนเข้าไปพักที่พิพิธภัณฑ์ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
ต่อมา นายวิสิทธิ์ ได้เข้าไปพบกับนักเรียนเพื่อสอบถามเหตุผลที่นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาเรียน และชี้แจงว่าที่ยังไม่ให้นักเรียนขึ้นเรียนด้วยชุดไปรเวท เพราะโรงเรียนต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงข้อตกลงระหว่างโรงเรียน กับผู้ปกครอง และนักเรียนที่มีร่วมกันไว้ เพราะโรงเรียนบดินเดชาฯ มีนักเรียนกว่า 4,200 คน เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนทุกคน ดังนั้นเมื่อนักเรียนแต่งชุดไปรเวมา ทางโรงเรียนจึงต้องเชิญผู้ปกครองนักเรียนมารับทราบปัญหา
ด้าน ตัวแทนกลุ่มนักเรียนที่ใส่ชุดไปรเวทมา กล่าวว่า ที่ใส่ชุดไปรเวทมาเรียนวันนี้เพื่อแสดงสัญลักษณ์ เพราะเราต้องการให้โรงเรียนพัฒนา ไม่ได้มาเรียกร้องให้โรงเรียนยกเลิกการแต่งชุดนักเรียน แต่พวกตนต้องการให้ใส่ชุดอะไรก็ได้มาเรียน เพราะการใส่ชุดนักเรียนไม่ได้ทำให้นักเรียนปลอดภัย แต่งชุดนักเรียนก็ยังถูกคุกคาม ที่ผ่านมาพวกตนได้เสนอเรื่องนี้มาแล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในโรงเรียน และวันนี้โรงเรียนจะลงโทษโดยการตัดคะแนนความประพฤติ พวกเราก็ยอม ก็ยังดีกว่าการห้ามพวกเราขึ้นห้องเรียน โดยทางโรงเรียนบอกว่าต้องให้ผู้ปกครองมารับทราบปัญหาก่อน แต่ผู้ปกครองเราบางคนไม่ว่างมารับทราบ และครูก็บอกว่าอนุญาตให้พวกเราขึ้นเรียนไม่ได้เพราะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ
ผอ.โรงเรียนบดินทรเดชาฯ กล่าวว่า โรงเรียนได้ออกประกาศโรงเรียนบดินเดชา(สิงห์ สิงหเสนี) เรื่อง การแต่งเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนบดินเดชาฯ ไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึง พ.ร.บ.เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 มาตรา 5 ให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบนักเรียน หากนักเรียนคนใดไม่แต่งชุดนักเรียนโดยไม่ได้รับการยกเว้นตามวรรคสอง อาจได้รับโทษทางวินัยตามระเบียบที่ ศธ.กำหนด จึงประกาศให้นักเรียน แต่งชุดนักเรียนตามระเบียบปฏิบัติของโรงเรียน กรณีที่นักเรียนไม่แต่งชุดนักเรียนและต้องการเข้าเรียนในชั้นเรียนให้ทางโรงเรียนเชิญผู้ปกครองมารับทราบปัญหาและดูแลนักเรียนในปกครอง ซึ่งโรงเรียนได้ทำความเข้าใจกับนักเรียนถึงความสำคัญของชุดนักเรียน และประโยชน์ในการดูแลความปลอดภัยนักเรียน
“การใส่ชุดนักเรียนสามารถจำแนกนักเรียนจากบุคคลภายนอกได้ และขอความร่วมมือผู้ปกครองทำความเข้าใจกับนักเรียน การใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียน เป็นเกียรติและความภาคภูมิใจที่มีมายาวนานจึงควรธำรงรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีไว้”นายวิสิทธิ์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามวันนี้อนุโลมให้นักเรียนที่เหลือขึ้นเรียนได้ แต่มีข้อตกลงว่าถ้าวันต่อไป แต่งชุดไปรเวทมาเรียนอีกก็จะต้องถูกลงโทษตามระเบียบของโรงเรียน ส่วนที่นักเรียนเสนอให้โรงเรียนทำประชาพิจารณ์เรื่องการแต่งชุดไปรเวทมาโรงเรียนได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน รวมถึงผ่อนปรนระเบียบทรงผม นั้น ตนตั้งใจจะให้มีการทำประชาพิจารณ์อยู่แล้ว ครูภายในโรงเรียนก็ทราบดี เพื่อให้ทราบว่านักเรียนส่วนใหญ่คิดเห็นอย่างไร ก่อนนำไปดำเนินการต่อตามขั้นตอนกฏหมายเพื่อแก้ไขกฏระเบียบต่อไป
“ผมพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นของนักเรียนทุกคน เพราะถือว่าร้องเรียนตรงจุด เพราะผมเป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียน นักศึกษา และเป็นเลขาอนุกรรมการของคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาของสภาผู้แทนราษฎร ก็จะนำข้อเรียกร้องของนักเรียนในวันนี้เข้าไปพิจารณาในที่ประชุมก่อนปิดสภาฯในช่วงเดือน กุมภาพันธ์นี้ด้วย” นายวิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ผอ.โรงเรียนจะอนุญาตให้เด็กแต่งชุดไปรเวทขึ้นห้องเรียน ได้ขอพบผู้ปกครองเพื่อมาตกลงทำความเข้าใจกันก่อนอีกครั้ง ได้มีผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่งตบลูก เนื่องจากเด็กนำชุดไปรเวทมาจากบ้าน แล้วมาแต่งกับเพื่อนก่อนเข้าโรงเรียน เพราะไม่เห็นด้วยกับการแต่งชุดไปรเวทมาเรียน