เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กพฐ. ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ปีการศึกษา 2564 ซึ่งโดยหลักการจะเหมือนกับปีการศึกษา 2563 ที่ สพฐ.กระจายอำนาจให้เขตพื้นที่การศึกษาและคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดดำเนินการ โดยมีข้อตกลงที่สำคัญ คือ จำกัดจำนวนรับไม่เกินห้องละ 40 คน ห้ามขยายจำนวนห้องและจำนวนนักเรียนต่อห้อง และจากการหารือที่ประชุมเห็นว่า มีความเป็นไปได้ว่า ในปีการศึกษา 2565 จำนวนนักเรียนต่อห้องอาจจะลดลงเหลือห้องละ 35 คน เพราะจำนวนประ ชากรลดลง ขณะที่หลักสูตรการเรียนการสอนก็เริ่มปรับเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ดังนั้นจำนวนนักเรียนจะต้องสอดคล้องกับจำนวนครูเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครู
“สำหรับการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษนั้น ก็ให้คงไว้เหมือนปีที่ผ่านมา เพื่อให้มีความยืดหยุ่นให้โรงเรียนสามารถบริหารจัดการได้ ส่วนช่วงเวลาหรือปฏิทินการรับนักเรียนเป็นหน้าที่ที่ สพฐ.จะกำหนด แต่เท่าที่ดูก็คงอยู่ในช่วงเวลาไม่ต่างจากเดิม เหมือนปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสำหรับการรับนักเรียนระดับอนุบาล และ ประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จะไม่มีการสอบ โดยที่ประชุมใช้คำว่าห้ามสอบทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียนพิเศษหรือห้องเรียนปกติ ดังนั้นโรงเรียนก็ต้องมีกระบวนการอื่นที่ไม่ใช่การสอบ โดยอาจจะเป็นการสัมภาษณ์ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่การสอบ ส่วนกรณีที่ต้องมีการจับฉลากก็ต้องให้ผู้ปกครองเป็นคนจับฉลาก ไม่ใช่ให้บุตรหลานจับ เพื่อไม่ให้เด็กเสียความรู้สึก” ประธาน กพฐ.กล่าวและว่า ทั้งนี้ สพฐ.จะเร่งสรุปแนวทางการรับนักเรียน เพื่อเสนอ รมว.ศึกษาธิการ ต่อไป หากรมว.ศึกษาธิการมีความเห็นอย่างไรก็สามารถส่งกลับมาให้ กพฐ.พิจารณาได้ แต่หากไม่มีความเห็นใดก็เป็นไปตามที่ บอร์ด กพฐ.กำหนด
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบแผนการรับมือการระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด 19 ระลอก 2 ซึ่ง สพฐ .ได้ส่งแผนการรับมือนี้ไปให้โรงเรียนทั่วประเทศรับทราบแล้ว โดยเฉพาะการรับนักเรียนต่างชาติ หรือ ครูต่างชาติที่มีเข้ามาก็มีแผนการและขั้นตอนสกัดไว้อยู่ จะต้องกักตัวตามขั้นตอน 14 วัน ซึ่งทุกโรงเรียนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการระบาดระลอก 2 จึงจำเป็นต้องป้องกันเพื่อไม่ให้คนไทยต้องรับผิดชอบจากการระบาดโดยคนต่างชาติ