เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้เปิดแถลงข่าวข้อเรียกร้องของกลุ่มนักเรียนที่ต้องการให้กระทรวงกระทรวงศึกษาธิการปฎิรูปการศึกษา โดยสรุปได้ จำนวน 10 เรื่อง คือ เรื่องทรงผมนักเรียน การแต่งกาย หลักสูตรที่ไม่ทันสมัย การเปิดช่องทางแสดงความคิดเห็น ภาระของครูที่มีมากเกินไป การยกเลิกการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต การคุกคามทางเพศในโรงเรียน ความหลากหลายทางเพศในโรงเรียน การเพิ่มการเรียนภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม และเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งข้อเรียกร้องทั้งหมดอยู่ในแผนงานที่ได้ดำเนินการมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมาอยู่แล้ว แต่เมื่อมีข้อเรียกร้องของนักเรียนเข้ามา ก็ได้มีย้ำข้าราชการในสังกัดต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องขับเคลื่อนนโยบายให้มีความรวดเร็วและเข้มข้นมากขึ้น
“ผมยอมรับว่าหลายสิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการนั้นยังขาดการสื่อสารออกไปเป็นวงกว้าง และการดำเนินงานในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นการปรับปรุงเรื่องของโครงสร้าง วางรากฐานต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานต่อไปข้างหน้านั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองต่อนโยบายทางการศึกษาที่ได้วางไว้นั่นก็คือ “การศึกษายกกำลังสอง” ที่เน้นการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการให้ “ปลดล็อก ปรับเปลี่ยน เปิดกว้าง”นายณัฏฐพล กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม จากยุทธศาสตร์แผนงานการศึกษายกกำลังสองที่ตนได้มอบหมายนโยบายให้กับทุกฝ่ายไปแล้วนั้น ตนเชื่อว่าการปฏิรูปการศึกษาไทยทั้งระบบ ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องของเด็กๆ จะสามารถดำเนินการได้อย่างแน่นอน ขอเพียงแต่ให้เวลาในการขับเคลื่อนนโยบายและทุกฝ่ายให้ความจริงใจในการแก้ปัญหา เชื่อว่าการศึกษาไทยจะสามารถพัฒนาเด็กๆ ให้มีความสามารถและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21 อย่างแน่นอน