นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้อำนวยการสำพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพค.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า สพค.ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร(คูปองครู)มามากมายจากหลายส่วน ซึ่งหลายข้อมูลอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ ดังนั้นจึงขอความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ดังนี้ 1. โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร(คูปองครู) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาครูเพื่อผู้เรียน เพื่อเตรียมครูให้พร้อมสำหรับพัฒนาผู้เรียน โดยมีความเชื่อว่า หลักสูตรที่ผ่านการรับรองและเปิดรุ่นจากสถาคุรุพัฒนา(คุรุสภา) มีคุณภาพ แต่ผลจะเป็นอย่างไรหลังการพัฒนา ครู และ ผอ.โรงเรียนจะเป็นผู้ประเมิน ซึ่งก็ขอให้ประเมินตามความจริง เพื่อประโยชน์ต่อทางราชการ 2. เงิน 10,000 บาท ที่จะลง 2 หลักสูตร เพื่อให้ครบ 20 ชั่วโมงนั้น พบปัญหาว่าไม่พอ ทำให้เขตพื้นที่ต้องแก้ปรับปรุงเงิน เป็นการสร้างภาระให้กับเขตพื้นที่อย่างมาก เพื่อให้ลงได้จะได้เก็บชั่วโมงให้ครบ 20 ชั่วโมง เรื่องนี้ สามารถแก้ปัญหาได้ โดยให้ลงแค่ 1 หลักสูตรก็เพียงพอแล้ว แล้วไปเพิ่มชั่วโมง PLC ที่ โรงเรียนแทนได้
3.หลักสูตรที่ลงคนน้อย หน่วยพัฒนาจัดไม่ได้ ทำให้ครูเกิดความเครียด หากเป็นกรณีที่หน่วยพัฒนายกเลิกครูเอง โดยครูลงทะเบียนหลักสูตรใหม่ไม่ทัน ทาง สพค.จะดำเนินการ ช่วยเหลือครู หลังปิดการ shopping เพื่อให้ได้อบรมพัฒนาตนเอง ตามความเหมาะสม โดยจะขอพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมดหลังปิดให้ลงทะเบียนวันที่ 22 มิ.ย.นี้ 4. สำหรับกรณีของหน่วยพัฒนาที่ยกเลิกครู นั้น สพค. จะพิจารณาเป็นราย ๆ เพื่อทำตามประกาศ และเป็นข้อมูลการดำเนินการในครั้งต่อไป 5. เมื่ออบรมเสร็จแล้ว การติดตามจะทำอย่างเข้ม เพื่อให้ได้ทราบจุดประสงค์และความตั้งใจจริงของโครงการนี้ และเพื่อสร้างความตระหนักว่า สพฐ. สนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนาครูสู่ผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ห้องเรียนจากการนำความรู้ที่ได้อบรมมาใช้กับผู้เรียน
“ และ 6. การอบรมโดยนับชั่วโมง เพื่อเชื่อมโยงกับวิทยฐานะ มีหลายวิธี เช่น คูปองครู โดยมีเงินสนับสนุน จุดประสงค์มุ่งที่ผู้เรียน อบรมแค่หลักสูตรเดียวเพียงพอแล้ว , หลักสูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรองและผ่านการเปิดรุ่นแล้ว ซึ่งครูนับชั่วโมงได้ แต่ต้องเสียเงินเอง , หลักสูตรที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) หรือ สถาบันคุรุพัฒนา (คุรุสภา) โดยที่ผู้จัดใช้งบประมาณของหน่วยเอง แล้วยื่นเรื่องขอรับรองหลักสูตร ครูที่เข้ารับการอบรมจะนับชั่วโมงได้ เป็นต้น ”ผอ.สพค.สพฐ.กล่าว