คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยว่า ปฐมวัยเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นช่วงวัยที่พัฒนาการด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับพัฒนาการในช่วงวัยต่อ ๆ ไป เด็กวัยนี้จึงเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของประเทศ ซึ่งมีจากผลงานวิจัยทั้งในและนอกประเทศ ระบุว่า การลงทุนกับเด็กปฐมวัยเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด และให้ผลตอบแทนมากกว่าทุกช่วงวัย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเด็กกลุ่มปฐมวัยประมาณเกือบล้านคน รัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และสภาการศึกษา ให้ความสำคัญกับเด็กกลุ่มนี้อย่างมาก จึงได้ออกพ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ.2562 เป็นการเฉพาะ โดยได้กำหนดแนวทางการดูแลเด็กปฐมวัยไว้อย่างครอบคลุมทุกด้าน หมายความว่า คนในประเทศไทยไม่ว่าใครก็ตาม ทั้งสังคม ครู สื่อมวลชน ท้องถิ่น จะต้องให้การพัฒนาเด็กปฐมวัยให้สมบูรณ์แบบที่สุด
“เป็นหน้าที่ของสภาการศึกษาที่ต้องกำหนด เพื่อให้เป็นมาตรฐานในการดูแลเด็กปฐมวัยตั้งแต่เกิดจนถึง 6 ขวบ โดยทุกองค์กรทุกภาคส่วนในประเทศจะต้องร่วมมือกันเพื่อดูแลเด็กเหล่านี้ และพัฒนาทั้งกายใจและความเป็นอยู่ รวมถึงสภาพจิตใจให้เจริญเติบโตให้เหมาะสมกับวัย การดูแลเด็กกลุ่มนี้จึงไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง โดยการดูแลพัฒนาเด็กปฐมวัยตามมาตรฐานที่สภาการศึกษาวางไว้มีเป้าหมายเพื่อให้เด็กมีสุขภาพกายและใจที่ดี มีทักษะทางสมอง ทักษะการเรียนรู้และทักษะชีวิตเพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ และสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพ การศึกษา และสวัสดิการสังคมอย่างเท่าเทียมกัน”รมช.ศึกษาธิการกล่าวและว่า เมื่อถ้าเราทำได้ทุกอย่างตามมาตรฐานและตัวชี้วัด และเด็กได้รับการดูพัฒนาตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเด็กจะได้รับการวางพื้นฐาน และได้รับการพัฒนาตามศักยภาพของเด็กแต่ละคน เชื่อว่าเด็กจะมีความพร้อมที่จะอยู่สังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างผันผวนได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญ มั่นใจว่าเด็กกลุ่มนี้จะเป็นเด็กดีมีคุณภาพเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป