นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว. ศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาทุจริตโครงการอาหารกลางวัน ว่า ตนได้สั่งการให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดศธ. และดร. บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)เร่งวางแนวทางแก้ไขเชิงระบบ ซึ่งมีปัญหาหลายจุด โดยเฉพาะที่ชาวบ้านเห็น และตนรู้สึกไม่ดี คือ การทุจริต อาหารเด็ก ส่วนการโอนงบฯล่าช้านั้น ยอมรับว่ามีบ้างในบางพื้นที่ แต่เป็นเรื่องที่เราสามารถหารือกับทางกระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้ ไม่อยากให้กังวล และได้มอบหมายดร.บุญรักษ์ ไปแล้ว ว่า ถ้าพื้นที่ใดได้รับงบฯช้า ก็ให้ไปหารือกับผู้รับผิดชอบ เพื่อวางแนวทางแก้ไข ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทะเลาะกัน
     “เรื่องงบฯไม่ใช่ประเด็น เรื่องที่ชาวบ้านเขาโมโหและผมเองก็ไม่แฮปปี้คือคุณภาพอาหารและการทุจริต ซึ่งพบว่าบางโรงเรียน ใช้วิธีประกวดราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-บิดดิ้ง เพราะได้งบฯค่อนข้างมาก ทำให้มีตัวกลางเข้ามาดำเนินการ ซึ่งโรงเรียนอาจไม่ได้โกง แต่ตัวกลางมีปัญหา ขณะที่บางโรงเรียนถือเงินเอง เช่น โรงเรียนขนาดเล็ก แต่กลับซื้ออาหารกลางวันให้เด็กได้ไม่ครบ เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำหลายครั้งให้เร่งแก้ไข ดังนั้นถ้าเราดำเนินการอย่างสุจริต โปร่งใสทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา และเท่าที่ทราบบางโรงเรียนสามารถทำได้ดี แต่ถ้าโรงเรียนไหนโกง ก็ต้องได้รับโทษ เรื่องแบบนี้ทุกคนยอมไม่ได้ ”นพ.ธีระเกียรติกล่าว และว่า ส่วนที่มีผู้ระบุว่า งบฯค่าอาหารกลาวงวัน 20 บาทต่อหัวต่อวัน อาจจะไม่เพียงพอต่อการจัดหาอาหารที่มีคุณภาพได้นั้น เท่าที่ดูคิดว่า เพียงพอ อยู่ที่การบริหารจัดการ และทราบว่ามีบางแห่งร่วมกลุ่ม ดำเนินการ และสามารถจัดหาอาหารกลางวันที่มีคุณภาพให้กับนักเรียนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศธ.จะเสนอดึงงบฯค่าอาหารกลางวันกลับมาบริหารจัดการเองหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า คงไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นงบฯ กระจายอำนาจ ที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ
     ด้านดร. บุญรักษ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศไปทำการสำรวจการดำเนินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนและให้รายงานกลับมาภายใน 13 มิถุนายน ว่า ขณะนี้ยังเหลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)อีกกว่า 10 แห่งที่ยังไม่ได้จัดส่งรายงานข้อมูลดำเนินการโครงการอาหารกลางวันเข้ามา ซึ่งอาจจะมีความล่าช้าในระบบการรายงาน ส่วนกรณีสพป.ขอนแก่น เขต 1 มีคำสั่งให้นายอภิชาติ นาเลาะห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ไปปฏิบัติราชการที่ สพป.ขอนแก่น เขต 1 นั้นเป็นการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินการโครงการอาหารกลางวันที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ถูกสุขอนามัย ซึ่งทางสพป.ขอนแก่น เขต 1 ได้ตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงแล้ว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments