เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นายสวัสดิ์ เพชรบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนหอวัง เปิดเผยว่า ตัวแทน กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ กรณีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ เข้ารับการประเมินเพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ ศธ.0206.3/ว13 เรื่อง การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวนกว่า 1,000 ราย ได้ยื่นหนังสือ ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ที่มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญทุกตำแหน่ง ต่อ ดร. บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบเห็นว่า ก.ค.ศ. มีหนังสือกำหนดหลักเกณฑ์การขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตาม ว13 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2556 แต่ก.ค.ศ. รับรองรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป จำนวน 203 รางวัลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 และกำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษายื่นขอรับการประเมินฯ ประจำปี 2559 วันที่ 1-30 เมษายน 2559 ซึ่งพวกตนได้ยื่นขอเข้ารับการประเมินตามเวลา หลังจากนั้นอีก 2 ปี เพิ่งมีหนังสือตอบ ว่าเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติ โดยไม่ได้แจ้งเหตุผลใด ๆ

นายสวัสดิ์ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจึงได้หารือกัน และเห็นพ้องร่วมกันเพื่อขอความเป็นธรรม ดังนี้ 1.กรณีผู้ที่ขอเข้ารับการประเมินตาม ว1 แต่สำนักงานก.ค.ศ. แจ้งว่า เป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน ขอให้สำนักงานก.ค.ศ.ทบทวนมติ ให้เข้ารับการประเมิน ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาก็ขอให้สำนักงานก.ค.ศ. มีมติให้มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน เช่นกัน 2. กรณีผู้ขอรับการประเมินมีรางวัลที่สำนักงาน ก.ค.ศ.รับรองเป็นรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไปตาม ว1 และรางวัลที่ก.ค.ศ. เคยอนุมัติให้มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นผลงานดีเด่นที่ต้นสังกัดพิจารณาเห็นว่า เป็นผลงานดีเด่นที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับผลงานที่ได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป ตั้งแต่มีการดำเนินการตาม ว13 เป็นต้นมา แต่สำนักงานก.ค.ศ. มีมติให้เป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน ขอให้สำนักงานก.ค.ศ. มีมติทบทวน ให้เป็นผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน

สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ก็ขอให้มีมติเป็นผู้มีคุณสมบัติ เข้ารับการประเมิน เช่นกัน และกรณีผู้เข้ารับการประเมินมีรางวัลที่ก.ค.ศ.ยังไม่ได้รับรองเป็นรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป แต่ส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาว่าเป็นผลงานดีเด่นที่มีคุณภาพเทียบเคียง ขอให้ทบทวนมติ ขอให้นำรางวัลดังกล่าว เสนอให้มีการพิจารณาเป็นผลงานดีเด่นเทียบเคียงผลงานที่ได้รับรางวัลระดับชาติขึ้นไปก่อน

นายสวัสดิ์ กล่าวต่อว่า 3. เมื่อผู้ขอเข้ารับการประเมินมีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ตาม ว13 , ว1 และที่ก.ค.ศ.เคยอนุมัติหรืออนุมัติให้เทียบเคียงกับผลงานที่ได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป ขอให้ก.ค.ศ. มีมติเป็นผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการประเมิน สำหรับการเขียนรายละเอียดขอแบบคำขอแบบรายงานและข้อเสนอในการพัฒนางาน หากพบความบกพร่องการเขียน ขอให้ก.ค.ศ. จัดทำเป็นข้อสังเกตไว้ เพื่อให้คณะกรรมการประเมินมาตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่สถานศึกษา และ4.ระยะเวลาในการประเมิน ขอให้สำนักงานก.ค.ศ. เร่งรัดเวลาในการพิจารณา เพราะหลายรายเสียสิทธิและเสียโอกาส

“เรื่องนี้ เลขาธิการ กพฐ. เข้าใจปัญหา และรับปากจะนำเรื่องเข้าหารือ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการก.ค.ศ. และจะเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยจะขอให้ดูแลกลุ่มที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ก่อน” นายสวัสดิ์กล่าว
ด้าน ดร. บุญรักษ์ กล่าวว่า ตนรายงานเรื่องนี้ให้นพ.ธีระเกียรติ รับทราบในเบื้องต้นแล้ว รวมถึงได้มีการหารือกับนายพินิจศักดิ์ นอกรอบ ซึ่งสพฐ.เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นมา 1 ชุด จะนำข้อมูลของผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ก่อนมาพิจารณาก่อน หากไม่มีความเปลี่ยนแปลง ถือเป็นการสร้างความเข้าใจ ว่า ไม่มีคุณสมบัติเพราะอะไร แต่หากจะมีผลดี ก็อาจจะมีการทบทวน โดยตนขอเรียกร้องว่า ระหว่างที่มีการพิจารณาเรื่องนี้ อย่าเคลื่อนไหวให้มีความกดดัน

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments